พรรครีพับลิกันของสหรัฐครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้สำเร็จ แต่ทำผลงานได้แย่กว่าที่ทางพรรคฯ คาดไว้หลังจากที่เสียเสียงข้างมากในวุฒิสภาให้กับพรรคเดโมแครต จนสร้างความผิดหวังให้กับรีพับลิกันที่หวังใช้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมเป็นเครื่องปูทางไปสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567
สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวานนี้ (16 พ.ย.) ว่า พรรครีพับลิกันได้เสียงข้างมากในสภาล่าง หลังจากที่นายไมค์ การ์เซีย ส.ส.จากรีพับลิกัน เอาชนะนางคริสตี สมิธ จากพรรคเดโมแครตได้ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่งผลให้รีพับลิกันมี 218 ที่นั่งในสภาล่างในที่สุด อย่างไรก็ดี ยังเหลืออีก 11 เขตเลือกตั้งที่ยังไม่ทราบผลแพ้-ชนะ แม้จะผ่านวันเลือกตั้งมาแล้วเกิน 1 สัปดาห์ก็ตาม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการจัดการปัญหาเศรษฐกิจของปธน.โจ ไบเดน และภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอย แต่กลับเกิดปรากฏการณ์เสียงแตกในหมู่ผู้ลงคะแนนเสียงในประเด็นต่าง ๆ อาทิ สิทธิการทำแท้ง, ภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยจากกลุ่มที่ปฏิเสธผลการเลือกตั้งปธน.สหรัฐเมื่อปี 2563 เป็นต้น
ปธน.ไบเดนกล่าวขณะเดินทางกลับกรุงวอชิงตันจากการประชุมสุดยอด G-20 ในอินโดนีเซีย โดยระบุว่า เขาจะร่วมงานกับนายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร "ผมขอแสดงความยินดีกับผู้นำแมคคาร์ธีที่รีพับลิกันชนะเสียงข้างมากในสภาล่าง และผมพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสภาล่างของรีพับลิกันเพื่อทำให้เกิดผลสำเร็จต่อครอบครัวคนทำงาน"
ทั้งนี้ พรรครีพับลิกันผิดหวังกับผลงานที่ย่ำแย่ในการเลือกตั้งกลางเทอม โดยบางคนในพรรคฯ กล่าวโทษว่า อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นต้นเหตุเนื่องจากแคนดิเดตหลายคนที่เขาหนุนหลังประสบความพ่ายแพ้ในสนามสำคัญ ๆ อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ก็ประกาศลงชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐอีกครั้งในปี 2567 ไปเมื่อวานนี้