คณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ตัดสินว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ควรได้รับความคุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีการสังหารนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวของวอชิงตันโพสต์ ซึ่งคู่หมั้นของนายคาช็อกกีเป็นผู้ยื่นฟ้อง แม้คณะบริหารได้เคยระบุว่า พระองค์เป็นผู้บงการเหตุฆาตกรรมนายคาช็อกกี
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทนายความสังกัดกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ยื่นคำขอต่อศาลตามที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเรียกร้อง เนื่องจากเจ้าชายโมฮัมเหม็ดเพิ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทำให้พระองค์มีคุณสมบัติในการได้รับความคุ้มครองในฐานะผู้นำรัฐบาลต่างประเทศ
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ทำการยื่นเอกสารเพื่อร้องขอต่อศาลในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี (17 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เพียงไม่นานก่อนถึงกำหนดเส้นตายของศาลที่กำหนดให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐต้องแสดงมุมมองต่อคำถามเรื่องความคุ้มกัน และข้อโต้แย้งอื่น ๆ ของเจ้าชายโมฮัมเหม็ดเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีดังกล่าว
"เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน นายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบียทรงดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐบาล ดังนั้นจึงทรงได้รับความคุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีในครั้งนี้" กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุในเอกสาร ในขณะเดียวกันก็ประณามว่า เหตุฆาตกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องที่เลวร้าย
ทั้งนี้ ท่ามกลางปัญหาเงินเฟ้อสูงจากผลพวงของราคาน้ำมันแพง คณะบริหารภายใต้การนำของปธน.ไบเดนได้พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจุดยืนครั้งสำคัญของปธน.ไบเดนซึ่งเคยให้คำมั่นว่าจะทำให้ซาอุดีอาระเบียกลายเป็น "พวกนอกคอก" จากกรณีการฆาตกรรมนายคาช็อกกี