ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเรียกร้องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) ให้ดำเนินการเพื่อหยุดยั้งการโจมตีทางอากาศของรัสเซียซึ่งมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครน ซึ่งส่งผลให้ประชาชนในเมืองต่าง ๆ ของยูเครนต้องตกอยู่ในความมืดและความหนาวเย็นจากฤดูหนาวที่ใกล้เข้ามา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธถล่มทั่วยูเครนในช่วงเช้าวานนี้ ส่งผลให้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องปิดดำเนินการและพลเรือนหลายรายเสียชีวิตในกรุงเคียฟ
ปธน.เซเลนสกีระบุในการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอว่า "เพียงวันนี้วันเดียว ยูเครนถูกโจมตีจากขีปนาวุธถึง 70 ลูก นี่แหละคือวิธีการอันโหดเหี้ยมของรัสเซีย" พร้อมกล่าวเสริมว่า โรงพยาบาล สถานศึกษา โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง รวมถึงเขตที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายจากการโจมตีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม UNSC ไม่มีแนวโน้มที่จะดำเนินการใด ๆ ตามข้อเรียกร้องดังกล่าวของยูเครน เนื่องจากมีรัสเซียเป็นหนึ่งในสมาชิกและสามารถใช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต (Veto) ได้
ทั้งนี้ ปธน.เซเลนสกียังเรียกร้องให้ตัดสิทธิ์รัสเซียในการลงคะแนนเสียงในทุกกรณีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของตนเอง โดยระบุว่า "เราไม่ควรตกเป็นตัวประกันของผู้ก่อการร้ายระดับชาติได้ และรัสเซียกำลังทำทุกทางเพื่อให้การผลิตพลังงานกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากกว่ากฎบัตรสหประชาชาติ"
ด้านนายวาซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำ UN ตอบโต้ข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยระบุว่า รัสเซียไม่เห็นด้วยกับกฎของคณะมนตรีฯ ที่ให้ปธน.เซเลนสกีปรากฏตัวทางวิดีโอ พร้อมปฏิเสธสิ่งที่รัสเซียระบุว่าเป็นการข่มขู่และการยื่นคำขาดของยูเครนและกลุ่มสนับสนุนจากประเทศตะวันตก