สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ไม่มีการประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดของจีนเกิดขึ้นเมื่อคืนวานนี้ (28 พ.ย.) เนื่องจากทางการจีนได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประจำการตามเมืองหลวง และเมืองสำคัญอื่น ๆ เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยการประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การปิดล้อมพื้นที่ตามท้องถนนของกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หางโจว นานกิง และที่อื่น ๆ ทำให้ฝูงชนไม่อาจเข้ามารวมตัวกันได้ แม้จะมีการส่งต่อแผนการรวมตัวประท้วงทางโซเชียลมีเดียก็ตาม นอกจากนี้ ห้างสรรพสินค้ายังปิดทำการก่อนกำหนดและผู้ที่สัญจรไปมาจะถูกตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวตน
ในกรุงปักกิ่งนั้น พื้นที่มหาวิทยาลัยรวมถึงย่านที่อยู่อาศัยในเขตไห่เตี้ยนเนืองแน่นไปด้วยรถตำรวจ ในขณะที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวนมากเข้ายึดโรงละครเพื่อใช้เป็นฐานปฏิบัติการ รวมถึงหลายพื้นที่ในใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยประจำการทั่วทุกพื้นที่เช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ตำรวจคอยตรวจสอบโทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟนของผู้คนที่สัญจรไปมาอยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อตรวจสอบว่ามีการใช้แอปพลิเคชันต้องห้ามในจีนอย่างทวิตเตอร์ และยูทูบ ตลอดจนเทเลแกรม หรือแอปส่งข้อความอื่น ๆ หรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ภาพคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจบนโลกออนไลน์ที่ระบุว่า ให้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้คนที่อยู่ตามท้องถนน โดยเฉพาะนักศึกษา เพื่อค้นหาแอปจากต่างชาติ ซึ่งรวมถึงเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network หรือ VPNs) ซึ่งเป็นแอปที่ใช้เพื่อการหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากเครือข่ายเกรท ไฟร์วอลล์ของจีน (Great Firewall)
ทั้งนี้ การรวมตัวกันประท้วงต่อต้านการใช้มาตรการยับยั้งโควิด-19 ของจีนเป็นเสมือนการท้าทายโดยตรงต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเป็นผู้ที่กำหนดให้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Policy) เป็นแนวทางสำคัญภายใต้การบริหารของเขาประเทศของเขา