สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนมีกำหนดเดินทางถึงซาอุดีอาระเบียในวันพฤหัสบดีที่ 8 ธ.ค.นี้ ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนและซาอุดีอาระเบียคุกรุ่นอย่างรุนแรง
ในโอกาสนี้ ปธน.สีจะเข้าร่วมการประชุมจีน-อาหรับและการประชุมจีน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในกรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย
ผู้นำรัฐอาหรับอย่างน้อย 14 รายมีแนวโน้มเข้าร่วมการประชุมจีน-อาหรับ โดยแหล่งข่าวระบุว่า ภารกิจเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้ของผู้นำจีนถือเป็นพัฒนาการครั้งสำคัญสำหรับการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างชาติอาหรับและจีน
กระแสข่าวลือว่าปธน.สีจะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรรายใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางของสหรัฐแพร่สะพัดมาหลายเดือนแล้ว แต่รัฐบาลจีนและซาอุดีอาระเบียยังไม่ได้ออกมายืนยันเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้ส่งเอกสารลงทะเบียนให้กับผู้สื่อข่าวที่ต้องการเข้าร่วมทำข่าวการประชุมสุดยอดครั้งนี้ โดยไม่ได้ยืนยันกำหนดเวลาที่ชัดเจน แต่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งที่สหรัฐมีต่อจีนและซาอุดีอาระเบีย โดยสหรัฐและซาอุดีอาระเบียยังคงไม่ลงรอยกันในประเด็นการผลิตน้ำมัน โดยโอเปกพลัส ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ค้าน้ำมันที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย มีมติในเดือนต.ค.ที่จะลดการผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับราคาน้ำมัน ซึ่งทำให้สหรัฐออกมาวิพาษ์วิจารณ์และคัดค้านอย่างหนัก
ทางฟากของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของสหรัฐมายาวนาน 8 ทศวรรษ ไม่พอใจต่อกรณีที่สหรัฐลดความช่วยเหลือด้านความมั่นคงในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะท่ามกลางภัยคุกคามที่เพิ่มสูงขึ้นจากอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธตัวแทนของอิหร่านในเยเมน
ส่วนจีน ยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจในซีกโลกตะวันออก มีปัญหาขัดแย้งกับสหรัฐประเด็นไต้หวัน โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าว่าจะปกป้องไต้หวัน หากจีนใช้กำลังโจมตีเพื่อการรวมชาติ ประเด็นดังกล่าวฉุดให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนย่ำแย่ลง ในขณะที่จีนพยายามแข่งขันเพื่อช่วงชิงอิทธิพลในตะวันออกกลาง