นางดินา โบลัวร์เต รองประธานาธิบดีเปรู เข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศคนใหม่ หลังจากที่นายเปโดร กัสติโย ประธานาธิบดีเปรู พยายามที่จะยุบสภาจนเกิดวิกฤติการณ์ทางการเมือง ซึ่งเป็นการกระทำที่ศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าเป็นการทำรัฐประหาร
นางโบลัวร์เตเข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ภายในรัฐสภาที่กรุงลิมาในวันพุธ (7 ธ.ค.) ซึ่งนับเป็นสตรีคนแรกที่ได้ขึ้นเป็นผู้นำประเทศเปรู และเป็นประธานาธิบดีคนที่ 6 ในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2561 ในขณะที่นายกัสติโยถูกสภาลงมติอย่างท่วมท้นในการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง และเขาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้แล้ว
ผู้นำประเทศคนใหม่ขึ้นสู่ตำแหน่งท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ตกอยู่ในความตึงเครียดและวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม นางโบลัวร์เตกล่าวในการสาบานตนว่า เธอเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยความตระหนักรู้ในหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง และได้เตรียมจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พร้อมให้สัญญาว่าจะต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชันอันน่าละอายซึ่งกัดกร่อนทำลายชาติ
นอกจากนี้ นางโบลัวร์เตยังได้กล่าวประณามความพยายามในการยุบสภาของนายกัสติโยด้วย โดยรัฐสภาของเปรูเป็นระบบสภาเดียว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายกัสติโยพยายามที่จะยุบสภามาเป็นระยะเวลา 9 เดือน รวมทั้งเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และประกาศเคอร์ฟิว ซึ่งก่อให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงทั้งจากสมาชิกสภา กองทัพ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงคณะรัฐมนตรีของเขาเอง และมีรัฐมนตรีลาออกเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในการลงมติถอดถอนนายกัสติโยนั้น สมาชิกสภานิติบัญญัติลงมติเห็นชอบ 101 เสียง คัดค้าน 6 เสียง และงดออกเสียง 10 เสียง