เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียได้ระดมยิงขีปนาวุธมากกว่า 70 ลูกเข้าใส่ยูเครนในวันศุกร์ (16 ธ.ค.) ซึ่งนับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่เริ่มทำสงคราม ส่งผลให้ไฟดับในคาร์คิฟซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดอันดับสองของยูเครน และทำให้รัฐบาลต้องทำการดับไฟฉุกเฉินทั่วประเทศ
เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีประชาชนเสียชีวิต 3 รายในเมืองครีวิริก (Kryvyi Rih) และอีกรายเสียชีวิตในเมืองเคอร์ซอน ขณะที่เจ้าหน้าที่รัสเซียที่ประจำการในยูเครนระบุว่า ประชาชน 12 รายเสียชีวิตจากการยิงของยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนได้เปิดเผยว่า รัสเซียยังคงมีขีปนาวุธมากพอที่จะทำการโจมตีครั้งใหญ่อีกหลายครั้ง และปธน.เซเลนสกีได้เรียกร้องอีกครั้งให้พันธมิตรชาติตะวันตกจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ดีขึ้นและมากขึ้นให้กับยูเครน
ปธน.เซเลนสกีกล่าวด้วยว่ายูเครนแข็งแกร่งพอที่จะตอบโต้ "ไม่ว่าผู้ยิงจรวดจากรัสเซียจะคาดหวังอะไร ก็จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงดุลอำนาจในสงครามนี้" เขากล่าว