ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนได้เดินทางถึงทำเนียบขาวในวันพุธ (21 ธ.ค.) ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียส่งกำลังทหารเข้าทำสงครามในยูเครนเมื่อเดือนก.พ. โดยปธน.เซเลนสกีได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากปธน.โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสภาคองเกรส
การเดินทางเยือนสหรัฐเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากปธน.เซเลนสกีได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเหล่าทหารของยูเครนด้วยการเดินทางไปเยี่ยมเยียนฐานทัพทหารในเมืองบาห์มุท ซึ่งเป็นเมืองด่านหน้าในฝั่งตะวันออกของยูเครน โดยปธน.เซเลนสกีได้กล่าวชื่นชมความกล้าหาญและความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของทหารและพลเรือนในเมืองด่านหน้าแห่งนี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีได้รวบรวมบรรยากาศการเยือนทำเนียบขาวของปธน.เซเลนสกี รวมทั้งรายงานประเด็นสำคัญในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ของปธน.เซเลนสกี และการให้คำมั่นสัญญาด้านความช่วยเหลือที่ปธน.ไบเดนมีต่อยูเครนดังนี้:
- ไบเดน-สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งให้การต้อนรับเซเลนสกีที่ทำเนียบขาว
ทันทีที่เดินทางถึงทำเนียบขาว ปธน.ไบเดน พร้อมด้วยภริยา นางจิล ไบเดน ได้ให้การต้อนรับปธน.เซเลนสกีอย่างอบอุ่น โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ปธน.เซเลนสกีเยือนทำเนียบขาว หลังการเยือนครั้งแรกในเดือนก.ย. 2563
หลังจากถึงทำเนียบขาวได้ไม่นาน ปธน.เซเลนสกีโพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมว่า "ผมอยู่ที่วอชิงตันแล้วในขณะนี้ ขอบคุณชาวอเมริกัน ขอบคุณปธน.ไบเดนและสมาชิกสภาคองเกรสที่สนับสนุนยูเครน เราจะยังคงร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนยูเครนให้พิชิตศึกสงครามนี้ให้เร็วขึ้น ผมมีกำหนดการเจรจาร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐหลายวาระ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพทางทหารให้กับยูเครน และที่สำคัญอย่างยิ่งคือเราจะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีระหว่างยูเครนและสหรัฐ"
- "เราไม่กลัว" เซเลนสกีประกาศกลางที่ประชุมสภาคองเกรส
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เชิญปธน.เซเลนสกีขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในห้องประชุมใหญ่สภาคองเกรสอย่างเป็นทางการ โดยปธน.เซเลนสกีกล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด โดยเขาเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น
นางเพโลซียกย่องความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวของปธน.เซเลนสกี โดยกล่าวว่า "เป็นเวลากว่า 10 เดือนนับตั้งแต่ยูเครนถูกรุกราน ท่านในฐานะประธานาธิบดี และเป็นชาวยูเครน สามารถเผชิญหน้ากับปธน.วลาดิเมียร์ ปูตินได้อย่างห้าวหาญ"
จากนั้นปธน.เซเลนสกีได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนโพเดียมของสภาคองเกรส โดยมีนางเพโลซี และนางคามาลา แฮร์ริส รองปธน.สหรัฐนั่งอยู่ด้านหลัง
"ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายและมืดมนเพียงใด ยูเครนจะไม่ล่มสลาย ยูเครนจะรอดและต่อสู้ต่อไป เราไม่มีความกลัว และทุกคนในโลกใบนี้ก็ไม่ควรกลัวด้วยเช่นกัน"
"ยูเครนมีชัยในศึกครั้งนี้และนั่นทำให้เรารู้สึกฮึกเหิม และการมีชัยครั้งนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับทั่วโลก ชาวอเมริกันมีชัยในศึกครั้งนี้ด้วย และนี่คือเหตุผลที่เราประสบความสำเร็จในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลกเพื่อปกป้องเสรีภาพและกฎหมายระหว่างประเทศ ชาวยุโรปก็มีชัยในสงครามนี้เช่นกัน และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ยูเครนแข็งแกร่งมากขึ้นและมีความเป็นอิสระมากขึ้นกว่าแต่ก่อน พวกผู้กดขี่อย่างรัสเซียนั้น ไม่สามารถควบคุมเราได้ในขณะนี้" ปธน.เซเลนสกีกล่าว
การกล่าวสุนทรพจน์ได้จับใจทำให้บรรดาสมาชิกสภาคองเกรสพากันลุกขึ้นปรบมืออย่างกึกก้องเป็นเวลานาน ขณะที่ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า "พวกท่านให้เกียรติผมอย่างมาก และที่ผมพูดทั้งหมดก็เพื่อเชิดชูบุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่างพวกท่าน ขอบคุณมาก" พร้อมกับวางมือไว้แนบที่หัวใจเพื่อแสดงสัญลักษณ์ของการขอบคุณ
- "เราฉลองคริสต์มาสด้วยแสงเทียนในหลุมหลบภัย"
ก่อนที่เทศกาลคริสต์มาสจะมีขึ้นในอีก 4 วันข้างหน้า ปธน.เซเลนสกีได้บอกเล่าให้สมาชิกสภาคองเกรสเห็นภาพว่ายูเครนเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญนี้อย่างไร แม้ว่าชาวยูเครนจำนวนหลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ ทั้งยังเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ เนื่องจากระบบโครงสร้างพื้นฐานถูกโจมตีโดยกองทัพรัสเซีย
"เราจะฉลองเทศกาลคริสต์มาส แม้ว่าเราไม่มีไฟฟ้า แต่แสงสว่างแห่งความศรัทธาของเราจะไม่มีวันดับ หากรัสเซียโจมตีเราด้วยขีปนาวุธ เราก็จะทำให้ดีที่สุดเพื่อปกป้องตัวเอง หากรัสเซียโจมตีเราด้วยโดรนของอิหร่าน ประชาชนของเราก็จะเข้าไปในหลุมหลบภัยในวันคริสต์มาสอีฟ แล้วชาวยูเครนจะนั่งลงบนโต๊ะแห่งการเฉลิมฉลองและจุดเทียนด้วยกัน เราไม่รู้หรอกว่าคนอื่นอธิษฐานว่าอย่างไรในวันคริสต์มาส แต่เรารู้เพียงว่าชาวยูเครนทุกคนอธิษฐานอย่างเดียวกันคือ ขอชัยชนะ และชัยชนะเท่านั้น" ปธน.เซเลนสกีกล่าวในสภาคองเกรส
- เซเลนสกีมอบธงชาติยูเครนที่ปักอยู่กลางสมรภูมิบาห์มุทให้กับสภาคองเกรส
หลังเสร็จสิ้นการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งประวัติศาสตร์ ปธน.เซเลนสกีได้มอบธงชาติยูเครนที่ก่อนหน้านี้เคยปักไว้ที่เมืองบาห์มุท ซึ่งเป็นเมืองด่านหน้าในฝั่งตะวันออกของยูเครน และเป็นศูนย์กลางแห่งจิตวิญญาณการต่อสู้ของยูเครน
"เมื่อผมไปเยี่ยมฐานทัพในเมืองบาห์มุทเมื่อวานนี้ เหล่าวีรบุรุษของเราได้มอบธงผืนนี้ให้กับผม เป็นธงของบรรดาผู้ที่ปกป้องยูเครน ยุโรป และทั่วโลกไว้ด้วยชีวิตของพวกเขา พวกเขาขอให้ผมนำธงนี้มามอบให้กับทุกท่านในสภาคองเกรสสหรัฐ ทั้งวุฒิสมาชิกและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะการตัดสินใจของพวกท่านสามารถช่วยชีวิตชาวยูเครนหลายล้านคนเอาไว้" ปธน.เซเลนสกีกล่าว
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ ปธน.เซเลนสกีได้ร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากสภาคองเกรสสหรัฐอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ยูเครนสามารถป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซียได้
ทั้งนี้ ปธน.เซเลนสกีได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสภาคองเกรส หลังจากทราบว่าสภาคองเกรสเตรียมอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือทางทหารและมนุษยธรรมให้กับยูเครนจำนวน 4.49 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2566
"ความช่วยเหลือด้านการเงินเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และผมขอขอบคุณพวกท่านอย่างมาก เงินของพวกท่านไม่ใช่เงินการกุศล แต่เป็นการลงทุนในความมั่นคงและประชาธิปไตยของโลก และเราจะบริหารจัดการเงินเหล่านี้ด้วยความรับผิดชอบ" ปธน.เซเลนสกีกล่าว
** ไบเดนให้กำลังใจเซเลนสกี... "คุณจะไม่มีวันโดดเดี่ยว"
จากนั้นปธน.เซเลนสกีได้พบปะกับปธน.โจ ไบเดนที่ทำเนียบขาว โดยในระหว่างการพูดคุยนั้น ปธน.ไบเดนให้กำลังใจปธน.ยูเครนด้วยคำพูดเรียบง่ายว่า "คุณจะไม่มีวันโดดเดี่ยว เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า การต่อสู้ของยูเครนเป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ชาวอเมริกันรู้ดีว่า หากเรายืนหยัดร่วมกับคุณเพื่อเผชิญหน้ากับการต่อสู้เพื่อนำมาซึ่งเสรีภาพและประชาธิปไตยนั้น โลกจะเผชิญกับความรุนแรงตามมาอย่างแน่นอน แต่ชาวอเมริกันก็พร้อมที่จะยืนหยัดต่อสู้กับการข่มเหงรังแก และยืนหยัดต่อสู้เพื่อเสรีภาพ เพราะนี่คือเรา ชาวอเมริกัน และแน่นอนว่า เราก็ทำเช่นนั้นในเวลานี้"
ในโอกาสนี้ ปธน.เซเลนสกีได้มอบเหรียญกล้าหาญให้กับปธน.ไบเดน แทนคำขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่สหรัฐทำเพื่อยูเครน
"ผมขอมอบเหรียญกล้าหาญนี้ให้กับท่าน เพื่อเชิดชูเกียรติในฐานะที่ท่านเป็นปธน.ที่กล้าหาญ เป็นกัปตันแห่งสมรภูมิรบ ท่านเป็นวีรบุรุษที่แท้จริงและเป็นกัปตันตัวจริง" ปธน.เซเลนสกีกล่าว