นายรอน ไวเดน ประธานคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐ เรียกร้องให้บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ รวมถึงเทสลา เจเนอรัล มอเตอร์ และฟอร์ด เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานระหว่างบริษัทกับจีน หลังพบความเชื่อมโยงระหว่างบริษัทรถยนต์และหน่วยงานของจีนในภูมิภาคที่เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่ามีการใช้แรงงานทาส
นายไวเดนส่งจดหมายไปถึงบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้ง 8 แห่ง เพื่อสอบถามถึงแผนงานด้านห่วงโซ่อุปทานของบริษัท เพื่อพิจารณาว่ามีส่วนที่เชื่อมโยงกับภูมิภาคที่มีการกล่าวอ้างว่าชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ถูกทารุณกรรมหรือไม่ ซึ่งนายไวเดนได้อ้างถึงกฎหมายป้องกันการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ (Uyghur Forced Labor Protection Act) ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามให้เป็นกฎหมายเมื่อปีที่แล้วและมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนมิ.ย. โดยร่างกฎหมายดังกล่าวระบุว่า ห้ามนำเข้าสินค้าจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน เว้นแต่ผู้นำเข้ามีหลักฐานที่สามารถยืนยันได้อย่างน่าเชื่อถือว่าสินค้าไม่ได้ผลิตขึ้นโดยมีการบังคับใช้แรงงาน
นายไวเดนกล่าวกับบริษัทผลิตรถยนต์เหล่านี้ว่า ข้อมูลที่เขาร้องขอนี้จะมีส่วนช่วยคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐในการประเมินประสิทธิภาพของความพยายามในการจัดการกับปัญหาแรงงานทาส รวมถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่น ๆ ในจีน
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า รัฐบาลจีนใช้เทคโนโลยีเพื่อการสอดแนมและตั้งข้อหาทางอาญา เพื่อเปิดทางให้จีนสามารถกักขังหน่วงเหนี่ยวชาวมุสลิมกว่า 1 ล้านคน รวมทั้งชาวอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเชื่อว่า มีค่ายกักกันของรัฐมากถึง 1,200 แห่งในซินเจียงซึ่งมีการใช้แรงงานทาส
ทั้งนี้ ตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกายังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้จีนได้ออกมาปฏิเสธการใช้แรงงานทาส แม้จะขัดแย้งกับรายงานของสหประชาชาติ (UN) ก็ตาม