รัฐสภาไต้หวันผ่านกฎหมายใหม่ที่จะอนุญาตให้บริษัทชิปขอเครดิตภาษีในอัตราส่วน 25% ของรายจ่ายด้านการวิจัยและการพัฒนารายปี ภายใต้ความพยายามในการรักษาเทคโนโลยีชิปเซมิดอนดักเตอร์ขั้นสูงเอาไว้ในไต้หวันและรักษาสถานะความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของไต้หวัน
ทั้งนี้ ทางการไต้หวันเน้นย้ำหลายต่อหลายครั้งว่าจะรักษาเทคโนโลยีชิปรุ่นล่าสุดเอาไว้ในไต้หวัน โดยบรรดาผู้บริหารของบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) และบริษัทชิปท้องถิ่นรายใหญ่อื่น ๆ ต่างออกมาขานรับนโยบายดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน
"ในขณะที่สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรป (EU) ต่างเสนอแรงจูงใจขนานใหญ่ เพื่อดึงดูดการสร้างห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ ไต้หวันเองก็ควรส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมชิปกับทั่วโลกให้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน โดยกฎเกณฑ์ใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นให้บริษัทไต้หวันรักษาฐานการผลิตเอาไว้ที่ไต้หวัน" กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวันระบุในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ม.ค.
รัฐบาลหลายประเทศตั้งแต่สหรัฐไปจนถึงเกาหลีใต้ต่างเร่งดึงดูดการผลิตชิปภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาไต้หวันในด้านชิปเซมิคอนดักเตอร์ล้ำสมัยและหลีกเลี่ยงภาวะติดขัดด้านห่วงโซ่อุปทานในอนาคต
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดข้อกังวลเหล่านี้ บริษัท TSMC จึงตัดสินใจสร้างโรงงานใหม่ในญี่ปุ่นและสหรัฐ รวมถึงกำลังพิจารณาสร้างโรงงานในเยอรมนีด้วย
กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวันระบุว่า กฎหมายจูงใจฉบับใหม่ของไต้หวันจะเริ่มมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้ โดยบริษัทชิปในไต้หวันยังสามารถขอเครดิตภาษี 5% ของต้นทุนการซื้ออุปกรณ์ใหม่รายปีสำหรับใช้กับเทคโนโลยีที่มีกระบวนการขั้นสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทชิปไม่สามารถขอเครดิตภาษีได้เกินกว่า 50% ของภาษีเงินได้รายปีทั้งหมดของบริษัท