หนังสือพิมพ์โอ โกลโบ (O Globo) ของบราซิลรายงานว่า นายฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตประธานาธิบดีของบราซิลได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ด้วยอาการ "ปวดท้อง" เพียงหนึ่งวันหลังจากที่กลุ่มผู้สนับสนุนหัวรุนแรงของเขาได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลฎีกาของบราซิล โดยขณะนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุกว่า 1,500 คนได้ถูกจับกุมตัวแล้วในเมืองบราซิเลีย เมืองหลวงของบราซิล
นายโบลโซนารูเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้งในช่วยหลายปีที่ผ่านมา ด้วยอาการลำไส้อุดตัน หลังถูกแทงเมื่อครั้งที่กำลังหากำลังเสียงในศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในปี 2561 ส่วนล่าสุดนี้เขาเดินทางไปยังสหรัฐ 2 วันก่อนที่นายลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวาจะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีบราซิลคนใหม่เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ปีนี้
นายลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิล ด้วยคะแนนโหวต 59.8 ล้านเสียง หรือคิดเป็น 50.86% แซงหน้านายโบลโซนารูซึ่งได้รับคะแนนโหวต 57.8 ล้านเสียง หรือคิดเป็น 49.14% อย่างไรก็ดี นายโบลโซนารูไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และอ้างว่าระบบการเลือกตั้งด้วยเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ของบราซิลเต็มไปด้วยการฉ้อโกง ซึ่งคำกล่าวอ้างดังกล่าวได้จุดชนวนความเคลื่อนไหวที่รุนแรงของกลุ่มผู้สนับสนุนนายโบลโซนารู
ทั้งนี้ ปธน.ลูลา ให้คำมั่นว่าจะนำตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยกลุ่มคนเหล่านี้ได้บุกรุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลฎีกาของบราซิล พร้อมกับทุบทำลายหน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงงานศิลปะที่ทรงคุณค่า
ด้านปธน.โจ ไบเดนของสหรัฐและผู้นำอีกหลายประเทศได้ออกมาประณามการจลาจลในครั้งนี้ โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ "อุกอาจ" ขณะที่นายโบลโซนารู ซึ่งขณะนี้อยู่ในที่รัฐฟลอริดาได้ปฏิเสธว่า ตนไม่ได้ยุยงปลุกปั่นกลุ่มผู้สนับสนุนและกล่าวว่าผู้ก่อการจลาจล "กระทำการล้ำเส้น"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายโบลโซนารูเผชิญกับการไต่สวนต่อหน้าศาลฎีกาของบราซิลหลายครั้ง นอกจากนี้ ยังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอนในสหรัฐ เนื่องจากเขากำลังถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการเดินทางเข้าสหรัฐด้วยวีซ่าที่ออกให้แก่ประมุขของรัฐ นักการทูต และเจ้าหน้าที่รัฐบาลอื่น ๆ
นายวาคีน คาสโตร ผู้แทนจากพรรคเดโมแครตในรัฐสภาสหรัฐกล่าวว่า "สหรัฐไม่ควรให้ที่หลบภัยแก่ผู้ที่ปลุกปั่นให้เกิดการก่อการร้ายภายในประเทศ และควรส่งตัวนายโบลโซนารูกลับบราซิล"