สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (12 ม.ค.) ว่า นายเมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดของสหรัฐประกาศแต่งตั้งนายโรเบิร์ต เฮอร์ เป็นที่ปรึกษาพิเศษด้านกฎหมาย เพื่อดำเนินการสอบสวนว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จัดเก็บเอกสารลับทางราชการในสมัยที่เขายังดำรงตำแหน่งรองปธน.สหรัฐไว้ในบ้านพักส่วนตัวที่รัฐเดลาแวร์และสำนักงานคลังสมองที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อย่างไม่เหมาะสมหรือไม่
นายการ์แลนด์กล่าวว่า นายเฮอร์จะตรวจสอบว่า "มีใครหรือหน่วยงานใดทำผิดกฎหมายหรือไม่"
ด้านทำเนียบขาวกล่าวว่า พบเอกสารลับบางรายการในโรงรถที่ล็อกกุญแจไว้และในห้องที่อยู่ติดกัน ณ บ้านพักส่วนตัวของปธน.ไบเดน โดยทำเนียบขาวยินดีให้ความร่วมมือต่อการสืบสวนอย่างเต็มที่
นายริชาร์ด เซาเบอร์ ทนายความของทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า "เรามั่นใจว่าการตรวจสอบโดยละเอียดจะแสดงให้เห็นว่า เอกสารเหล่านี้ถูกนำมาวางไว้ผิดที่โดยไม่ได้ตั้งใจ และท่านประธานาธิบดีกับทีมทนายความได้ดำเนินการทันทีที่ทราบว่ามีความผิดพลาดเช่นนี้เกิดขึ้น"
ด้านปธน.ไบเดนตอบคำถามต่อผู้สื่อข่าวเรื่องความเหมาะสมในการเก็บเอกสารลับทางราชการไว้ในโรงรถว่า "ก็ไม่ใช่ว่ามันจะตั้งอยู่บนถนนซะเมื่อไหร่ ประชาชนก็รู้ว่าผมเอาจริงกับเรื่องเอกสารรายงานลับ"
ปมเก็บเอกสารลับครั้งนี้คล้ายคลึงกับกรณีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐที่ถูกสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ตรวจสอบเอกสารลับที่ยึดมาจากบ้านพักของนายทรัมป์ที่รีสอร์ตมาร์-อา-ลาโกในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายกล่าวว่า สองกรณีนี้ไม่เหมือนกัน โดยไบเดนจะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายในฐานะที่กำลังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐและไม่น่าจะถูกดำเนินคดีฟ้องร้อง ซึ่งต่างจากอดีตปธน.ทรัมป์ที่เสียอภิสิทธิ์นั้นไปแล้วหลังหมดวาระลงในเดือนม.ค. 2564
"ความจริงแล้วมันแตกต่างกันมาก สิ่งที่เหมือนกันเพียงอย่างเดียวคือมีเอกสารลับที่ถูกนำออกจากทำเนียบขาวไปไว้ที่อื่น" นายเคล แมคคลานาแฮน หัวหน้าสำนักงานทนายความเนชั่นแนล ซีเคียวริตี้ เคาน์เซลเลอร์สกล่าว