สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษออกมาเตือนว่า อังกฤษกำลังตามหลังประเทศคู่แข่งในการแข่งขันเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมเรียกร้องให้นายริชิ ซูนัก นายกรัฐมนตรีอังกฤษออกมาดำเนินการทันทีในด้านการส่งเสริมการลงทุน แก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และหลีกเลี่ยงปัญหาความวุ่นวายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับกฎหลังจากเบร็กซิต (Brexit)
นายโทนี แดงเคอร์ ผู้อำนวยการใหญ่ของสมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ ได้ยกย่องนายซูนักสำหรับการคลี่คลายวิกฤติจากนโยบายปรับลดภาษีของนางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีคนก่อน ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม อังกฤษยังคงตามไม่ทันการปฏิรูปการเติบโตของสหรัฐและประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป
นายแดงเคอร์ชี้ว่า ประเทศอื่น ๆ นำหน้าอังกฤษในการลงทุนอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในด้านต่าง ๆ เช่น ปั๊มความร้อน ฉนวนกันความร้อน การก่อสร้างที่เน้นการประหยัดพลังงาน จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การดักจับและการกักเก็บคาร์บอน
จากบางส่วนของสุนทรพจน์ที่นายแดงเคอร์จะกล่าวในวันนี้ (23 ม.ค.) ระบุว่า "ตอนนี้เราอยู่ตามหลังพวกเขา และก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะออกมาดี"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษ คาดว่าจะประกาศมาตรการส่งเสริมการเติบโตในคำแถลงประกอบงบประมาณในเดือนมี.ค. แต่นายแดงเคอร์เกรงว่ารัฐบาลอาจจริงจังกับการปฏิรูปน้อยลง เมื่อการเลือกตั้งใกล้เข้ามา ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในปี 2567
"หากรัฐบาลต้องการปฏิเสธการใช้นโยบายการย้ายถิ่นเชิงเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับตำแหน่งงานที่ว่างแบบทันควัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจไม่เห็นด้วยแล้ว การแทรงแซงตลาดแรงงานของพวกเขาคงจะต้องเป็นอะไรที่เข้มข้นที่สุดในโลก" นายแดงเคอร์ กล่าว
ทั้งนี้ การปฏิรูปดังกล่าวควรรวมถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในด้านสวัสดิการและการดูแลเด็กเพื่อให้ประชาชนกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง แม้จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดให้การคลังสาธารณะที่กำลังตึงเครียดอยู่แล้วก็ตาม