นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ออกมาเตือนว่าญี่ปุ่นใกล้จะสูญเสียฟังก์ชันทางสังคม เนื่องจากอัตราการเกิดกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว พร้อมให้คำมั่นว่าจะให้ความสำคัญกับนโยบายส่งเสริมการเลี้ยงดูบุตรเป็นวาระเร่งด่วนที่สุดในปีนี้
ในการแถลงนโยบายเริ่มการประชุมสามัญของรัฐสภาระยะเวลา 150 วัน นายคิชิดะได้ให้คำมั่นว่าพร้อมที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และรับบทผู้นำทางการทูตเนื่องในโอกาสที่ญี่ปุ่นเป็นประธานการประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 ในปีนี้
นอกจากนี้ นายคิชิดะยังได้กล่าวขอโทษกรณีที่มีรัฐมนตรีถึง 4 คนลาออกจากตำแหน่งภายในเวลาเพียง 2 เดือนเมื่อปีที่แล้ว โดยทั้ง 4 คนต้องพ้นจากตำแหน่งหลังเผชิญเรื่องอื้อฉาว ซึ่งรวมถึงการถูกตั้งคำถามถึงความเกี่ยวข้องกับโบสถ์แห่งความสามัคคี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ถ้อยแถลงของนายคิชิดะมีขึ้นหลังรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อเดือนธ.ค.ว่า อัตราการเกิดต่อปีของญี่ปุ่นมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่าระดับ 800,000 คนเป็นครั้งแรกในปี 2565
นายคิชิดะระบุว่า นโยบายที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมการเลี้ยงดูบุตรถือเป็น "การลงทุนที่มีประสิทธิภาพที่สุดเพื่ออนาคต" พร้อมให้คำมั่นที่จะ "สร้างเศรษฐกิจและสังคมที่คำนึงถึงเด็กเป็นอันดับแรก" เพื่อพลิกอัตราการเกิดที่ลดลง ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการเพิ่มผลิตภาพในระยะยาว