ญี่ปุ่นตัดสินใจในวันนี้ (27 ม.ค.) ที่จะเพิ่มรายชื่อบุคคล 36 รายและองค์กร 52 แห่งที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียในรายชื่อคว่ำบาตร อันเนื่องมาจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครน ขณะที่แทบไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าสงครามจะสิ้นสุดลง ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงในยุโรปและเอเชีย
การคว่ำบาตรซึ่งรวมถึงการอายัดทรัพย์สินและห้ามส่งออกสินค้าจากบริษัทญี่ปุ่นนั้น มีเป้าหมายที่นักการเมือง เจ้าหน้าที่กองทัพ นักธุรกิจ บริษัทต่าง ๆ ในรัสเซีย รวมถึงในภูมิภาคตะวันออกและใต้ของยูเครน และอื่น ๆ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นขณะที่รัฐบาลของนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งเป้าจะเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซียในปีนี้ โดยญี่ปุ่นเป็นประธานกลุ่ม G7 ซึ่งเป็นผู้นำในระดับนานาชาติเพื่อรักษาและยกระดับมาตรการลงโทษรัสเซีย
นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเกือบ 1 ปีก่อน ญี่ปุ่นก็ได้ใช้การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับรัสเซียตามชาติตะวันตก เช่น การอายัดทรัพย์สินของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และธนาคารกลางรัสเซีย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย อาทิ นายอันเดร เบโลซอฟ รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง, นายคอนสแตนติน ชือเชร์โก รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และนายมิคาอีล มิซินเซฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ล้วนอยู่ในรายชื่อคว่ำบาตรครั้งใหม่ของญี่ปุ่น
รัฐบาลของนายคิชิดะยังระบุด้วยว่า จะเพิ่มรายการสินค้าที่ห้ามส่งออกไปยังรัสเซียด้วยเนื่องจากอาจถูกนำไปใช้ทางทหาร โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ก.พ.นี้