สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐได้เปิดสถานทูตแห่งใหม่ในหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มสถานะทางการทูตของสหรัฐในภูมิภาคนี้ ขณะที่จีนพยายามเพิ่มอิทธิพลในภูมิภาคนี้ด้วยเช่นกัน
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวในถ้อยแถลงเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ว่า ภารกิจใหม่ของสหรัฐในกรุงโฮนีอารา เมืองหลวงของหมู่เกาะโซโลมอนนั้น ต่อยอดจาก "ความพยายามที่ไม่เพียงเพิ่มบุคลากรทางการทูตให้มากขึ้นทั่วภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังต้องมีส่วนร่วมมากขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านในมหาสมุทรแปซิฟิกของเราด้วย"
สหรัฐพร้อมด้วยชาติพันธมิตรต่าง ๆ อาทิ ออสเตรเลีย พยายามเพิ่มอิทธิพลเหนือประเทศยากจนที่เป็นหมู่เกาะในแปซิฟิกใต้ เช่น ปาปัวนิวกินี, ฟีจี และวานูวาตู โดยให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ เช่น ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 และให้คำมั่นว่าจะช่วยประเทศเหล่านี้ต่อสู้กับปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำรอบเมืองหลวง ตลอดจนบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกรวน
สหรัฐพยายามสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับหมู่เกาะโซโลมอน หลังจากที่เอกสารร่างข้อตกลงด้านความมั่นคงที่รั่วไหลเมื่อปีที่แล้วระบุว่า กองทัพเรือจีนจะได้รับอนุญาตให้เทียบท่าในหมู่เกาะโซโลมอนได้ แม้รัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอนยืนยันว่าไม่มีเจตนาอนุญาตให้จีนเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศก็ตาม
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำมากกว่าสิบรายจากประเทศหมู่เกาะต่าง ๆ สำหรับการประชุมสุดยอดพิเศษในกรุงวอชิงตันเมื่อเดือนก.ย. ซึ่งนำไปสู่การลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหมู่เกาะโซโลมอนกับสหรัฐ