สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์บิลด์ อาม ซอนทาก (Bild am Sonntag) ฉบับวันอาทิตย์ (5 ก.พ.) ว่าในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างตัวเขากับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย นั้น ปธน.ปูตินไม่ได้มีการข่มขู่ตัวเขาหรือเยอรมนีแต่อย่างใด
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังนายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวกับสำนักข่าวบีบีซีเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ปธน.ปูตินขู่ตัวเขาว่า จะทำการยิงขีปนาวุธ ซึ่งจะใช้เวลาเพียงไม่นาน ก่อนที่ทางรัสเซียจะออกมาแย้งว่านายจอห์นสันนั้นโกหก
นายโชลซ์ระบุว่า การสนทนาระหว่างตัวเขากับปธน.ปูตินนั้นชัดเจนว่าพวกเขามีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสงครามยูเครน
นายโชลซ์กล่าวว่า "ผมชี้แจงอย่างชัดเจนต่อปธน.ปูตินว่า รัสเซียเป็นผู้ต้องรับผิดชอบต่อสงครามยูเครนแต่เพียงผู้เดียว รัสเซียทำการรุกรานประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่มีเหตุผลเพื่อยึดครองส่วนหนึ่งของยูเครนหรือทั้งหมด"
โดยนายโชลซ์ชี้ว่า เพราะเยอรมนีมีมุมมองว่าการกระทำของรัสเซียนั้นขัดต่อกรอบการทำงานเพื่อสันติภาพของยุโรป เยอรมนีจึงให้ความช่วยเหลือทางการเงิน มนุษยธรรม และทหารแก่ยูเครน
พร้อมกันนี้ นายโชลซ์ยังกล่าวด้วยว่า มีการทำข้อตกลงกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนว่า อาวุธที่ชาติตะวันตกส่งให้จะต้องใช้บนแผ่นดินยูเครนเท่านั้น
ท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้รัฐบาลเยอรมนีได้ประกาศแผนที่จะส่งมอบรถถังเลพเพิร์ด 2 (Leopard 2) จากคลังกองทัพให้กับยูเครน โดยการส่งมอบอาวุธต่าง ๆ จะร่วมมือกับพันธมิตรตะวันตกอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้สงครามบานปลายขึ้น