สหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัท 3 แห่งในสิงคโปร์และมาเลเซีย เนื่องจากมีเอี่ยวในการจำหน่ายและขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและปิโตรเลียมมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในนามของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับอิหร่าน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการค้าน้ำมันและก๊าซที่สำคัญ และในบางครั้งมีรายงานว่าบริษัทในสิงคโปร์ได้ให้การช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ เช่น อิหร่านและรัสเซีย ในการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ
ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นหลังจากความต้องการถังเก็บน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเชื้อเพลิงจากรัสเซียจำนวนมากกำลังถูกผสมและส่งออกไปทั่วโลก
นายไบรอัน เนลสัน ผู้ช่วยรัฐมนตรีคลังสหรัฐด้านการต่อต้านก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงิน ระบุว่า "อิหร่านเริ่มหันไปขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและปิโตรเลียมให้แก่ผู้ซื้อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากขึ้น ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ" พร้อมเสริมว่า "สหรัฐยังคงจับตาแหล่งที่มาของรายได้ที่ผิดกฎหมายของอิหร่าน และจะยังคงดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อผู้ที่จงใจอำนวยความสะดวกในการค้านี้"
รายงานระบุว่า บริษัท เอเชีย ฟิวเอล (Asia Fuel) และบริษัท ยูนิเชียส เอนเนอร์จี (Unicious Energy) ในสิงคโปร์ และบริษัท เซนส์ ชิปปิ้ง แอนด์ เทรดดิ้ง (Sense Shipping and Trading) ในมาเลเซีย ถูกกล่าวหาว่าทำธุรกิจกับบริษัท ทริเลียนซ์ ปิโตรเคมิคัล (Triliance Petrochemical) ซึ่งถูกคว่ำบาตรเมื่อปี 2563 เนื่องจากอำนวยความสะดวกในการขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติอิหร่าน
ทั้งนี้ บริษัททั้ง 3 แห่งเป็นส่วนหนึ่งใน 9 หน่วยงานที่สหรัฐระบุว่ามีบทบาทในการผลิต จำหน่าย และขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและปิโตรเลียมมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ของอิหร่านให้แก่ผู้ซื้อในเอเชีย