สหรัฐประกาศยืนหยัดเคียงข้างฟิลิปปินส์ หลังเกิดกรณีเรือยามฝั่งของจีนลำหนึ่งได้ยิงเลเซอร์ "เกรดทหาร" ไปยังลูกเรือบางคนของฟิลิปปินส์บนเรือที่อยู่เหนือน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการมองเห็นของลูกเรือฟิลิปปินส์
นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุว่า "สหรัฐจะยืนหยัดเคียงข้างฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของเรา ในการเผชิญหน้ากับหน่วยยามฝั่งของจีนที่ยิงเลเซอร์ไปยังลูกเรือของเรือหน่วยยามชายฝั่งฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ในทะเลจีนใต้"
เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) ฟิลิปปินส์กล่าวหาหน่วยยามชายฝั่งจีนว่า พยายามขัดขวางภารกิจการขนส่งอาหารและเสบียงให้แก่กองกำลังซึ่งประจำการอยู่ในเขตน่านน้ำซึ่งเป็นข้อพิพาทระหว่างจีนและฟิลปปินส์ในทะเลจีนใต้ โดยการยิงเลเซอร์ "เกรดทหาร" เข้าใส่ลูกเรือบนเรือ
ถ้อยแถลงของหน่วยยามชายฝั่งฟิลิปปินส์ระบุว่า "เหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ก.พ. เกิดขึ้นที่แนวสันดอนโธมัสที่ 2 (Second Thomas Shoal) เมื่อเรือของหน่วยยามชายฝั่งจีนยิงเลเซอร์มายังเรือของฟิลิปปินส์ จนทำให้ลูกเรือสูญเสียการมองเห็นไปชั่วขณะ รวมถึง "ใช้กลวิธีที่อันตราย" ในระยะห่างราว 150 หลาจากกราบขวาของเรือฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ การกีดขวางเส้นทางเดินเรือเป็นการกระทำโดยเจตนา เพื่อไม่ให้เรือของรัฐบาลฟิลิปปินส์ส่งอาหารและเสบียงให้กับบุคลากรทางทหารของเราบนเรือบีพีอาร์ เซียร์รา มาเดร (BRP Sierra Madre) ถือเป็นการละเมิดสิทธิอธิปไตยของฟิลิปปินส์อย่างชัดเจนในพื้นที่นี้ของทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก"