รายงานที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐระบุเมื่อวันอังคาร (14 ก.พ.) ว่า รัสเซียได้นำเยาวชนชาวยูเครนอย่างน้อย 6,000 คนหรือมากกว่านั้นไปที่ยังสถานที่ต่าง ๆ ในรัสเซียและไครเมียที่รัสเซียยึดครองอยู่ โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อให้การศึกษาใหม่ในเรื่องการเมือง
รายงานระบุว่า นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยลได้ระบุถึงค่ายกักกันอย่างน้อย 43 แห่งและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่กักขังเยาวชนยูเครนอยู่นั้นว่า เป็นส่วนหนึ่งของ "เครือข่ายระบบขนาดใหญ่" ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลรัสเซียนับตั้งแต่เปิดฉากบุกยูเครนในเดือนก.พ. 2565
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงจากรายงานว่า เยาวชนที่ถูกกักกันนั้น มีทั้งเด็กที่มีพ่อแม่หรือมีครอบครัวผู้ปกครอง, เยาวชนที่รัสเซียมองว่ากำพร้า, เยาวชนที่อยู่ในการดูแลของสถาบันของยูเครนก่อนการรุกราน และเยาวชนที่มีการดูแลไม่ชัดเจนหรือไม่แน่นอน เนื่องจากภาวะสงคราม
นายนาธาเนียล เรย์มอนด์ หนึ่งในนักวิจัยกล่าวกับนักข่าวว่า "จุดประสงค์หลักของค่ายกักกันที่เราพบดูเหมือนจะเป็นการให้การศึกษาเกี่ยวกับการเมือง"
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า เยาวชนบางคนถูกย้ายผ่านระบบ และมีครอบครัวชาวรัสเซียรับไปเลี้ยงดู หรือย้ายไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในรัสเซีย โดยเยาวชนที่มีอายุน้อยที่สุดมีอายุเพียง 4 เดือนเท่านั้น และบางค่ายมีการฝึกทหารให้กับเยาวชนที่มีอายุเพียงแค่ 14 ปีอีกด้วย
นายเรย์มอนด์กล่าวเสริมว่า กลุ่มนักวิจัยยังไม่ค้นพบหลักฐานการส่งเยาวชนเหล่านี้ไปยังสมรภูมิรบ
ด้านสถานทูตรัสเซียในกรุงวอชิงตันยังไม่ได้ตอบกลับการขอความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานนี้