ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เดินทางเยือนยูเครนในวันนี้ ถือเป็นการจงใจยั่วยุรัสเซีย ก่อนที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะทำการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Nation Address) ต่อรัฐสภารัสเซียในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.)
"นี่เป็นการยั่วยุของปธน.ไบเดน และผมคิดว่าพฤติกรรมของเขาในวันนี้จะถูกปธน.ปูตินนำไปพิจารณาสำหรับการจัดเตรียมถ้อยแถลงในวันพรุ่งนี้" นายวลาดิเมียร์ ซาริคิน รองผู้อำนวยการสถาบันแห่งประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) กล่าว
"ปธน.ไบเดนจงใจเยือนยูเครนเพียง 1 วันก่อนที่จะมีการแถลงนโยบายประจำปี ซึ่งถือเป็นการท้าทายปธน.ปูติน ผมคิดว่าเขาจะถูกตอบโต้กลับ" นายซาริคินกล่าว และเสริมว่า การกระทำของปธน.ไบเดนเป็นการบ่งชี้ว่านักการเมืองสายเหยี่ยวในรัฐบาลสหรัฐกำลังประสบชัยชนะ
นางทัตเตียนา สตาโนวายา ผู้เชี่ยวชาญด้านรัสเซีย กล่าวเช่นกันว่า "มีการคาดว่าถ้อยแถลงของปธน.ปูตินในวันพรุ่งนี้จะมีความแข็งกร้าวมากขึ้น หลังจากที่ปธน.ไบเดนเดินทางเยือนยูเครนในวันนี้ ซึ่งรัสเซียมองว่าเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าสหรัฐต้องการให้รัสเซียประสบความพ่ายแพ้ในสงครามยูเครน และสงครามดังกล่าวกำลังกลายเป็นสงครามระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก"
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะทำการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Nation Address) ต่อรัฐสภารัสเซียในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) ก่อนครบรอบ 1 ปีของการที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ.2565
"ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียจะกล่าวแถลงการณ์ประจำปีต่อสมัชชาแห่งชาติ ซึ่งรวมถึงสมาชิกจากสภาสหพันธ์หรือวุฒิสภา และสภาดูมาหรือสภาผู้แทนราษฎร" นายเพสคอฟกล่าว
ที่ผ่านมา การแถลงนโยบายประจำปีถือเป็นโอกาสที่ประธานาธิบดีรัสเซียจะกล่าวถึงทิศทางนโยบายทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อสาธารณะผ่านทางรัฐสภารัสเซีย ซึ่งหลังจากนั้น วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรจะทำการรับรองกฤษฎีกาของประธานาธิบดีเพื่อบังคับใช้นโยบายในแถลงการณ์ รวมทั้งจัดทำกฎหมายเพื่อรับรองนโยบายดังกล่าว
สำหรับการแถลงนโยบายประจำปีในครั้งนี้ได้ถูกจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากมีขึ้นก่อนครบรอบ 1 ปีของการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ สร้างความประหลาดใจด้วยการเดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนในวันนี้ และได้เข้าพบประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เพื่อแสดงการสนับสนุนของสหรัฐต่อยูเครน ก่อนครบรอบ 1 ปีของการที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ.2565
ล่าสุด ปธน.ไบเดนได้เดินทางออกจากกรุงเคียฟแล้ว หลังจากอยู่ในยูเครนนาน 5 ชั่วโมง และกำลังมุ่งหน้าสู่โปแลนด์
มีเสียงไซเรนดังทั่วกรุงเคียฟในระหว่างที่ปธน.ไบเดนหารือกับปธน.เซเลนสกีภายในอาสนวิหารนักบุญไมเคิลกลางกรุงเคียฟ แต่ไม่มีรายงานว่ารัสเซียได้ทำการโจมตีทางอากาศ หรือยิงขีปนาวุธโจมตีกรุงเคียฟแต่อย่างใด
ปธน.ไบเดนได้กล่าวยกย่องความกล้าหาญของชาวยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย และยืนยันว่าสหรัฐจะยังคงให้การสนับสนุนยูเครนตราบนานเท่านาน
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนเปิดเผยว่า สหรัฐจะให้ความช่วยเหลือทางทหารครั้งใหม่แก่ยูเครนคิดเป็นวงเงิน 500 ล้านดอลลาร์ โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนได้เคยเดินทางเยือนกรุงเคียฟเป็นเวลา 6 ครั้งในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ครั้งนี้นับเป็นการเดินทางเยือนครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐ