พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีกำหนดเปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในวันอาทิตย์ที่ 5 มี.ค.นี้ และจะมีการปรับคณะบริหารรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี ในขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง รวบอำนาจเบ็ดเสร็จในการปกครองประเทศ ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน ตั้งแต่การฟื้นตัวที่ไม่เสมอภาคกันหลังยุคโควิด-19 ไปจนถึงความสัมพันธ์อันตึงเครียดกับสหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การประชุม NPC ครั้งนี้จะจัดขึ้นที่มหาศาลาประชาชน ทางฝั่งตะวันตกของจัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งเป็นการประชุม NPC ครั้งแรกหลังจากที่จีนยุติการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ อย่างไรก็ดี จีนยังคงใช้มาตรการป้องกันบางส่วน ซึ่งรวมถึงการตรวจเชื้อโควิด-19 และการกักตัวผู้สื่อข่าวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
NPC ซึ่งถือเป็นสภาตรายางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน จะให้การรับรองทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของปธน.สี หลังจากปธน.สีซึ่งเป็นผู้นำจีนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดนับตั้งแต่ยุคอดีตปธน.เหมา เจ๋อตุงนั้น ได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งผู้นำจีนเป็นสมัยที่ 3 และแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนสนิทของตนเองในระหว่างการประชุมสภาเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนอาจจะกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2566 เอาไว้ในกรอบ 5-6% เพื่อควบคุมอัตราว่างงานไม่ให้สูงเกินไป และอาจจะมีการประกาศมาตรการต่าง ๆ ที่พุ่งเป้ากระตุ้นการอุปโภคบริโภคและการลงทุนจากต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2565 ที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 มีมติรับรองการต่ออายุให้นายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนเป็นสมัยที่ 3 นอกจากนี้ ที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ยังเปิดตัว 7 ผู้นำในคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโร) ชุดใหม่ ซึ่งผู้นำทั้ง 7 นี้จะร่วมกำหนดทิศทางการเมืองและเศรษฐกิจของจีนตลอด 5 ปีข้างหน้า
1. นายสี จิ้นผิง วัย 69 ปี
นอกจากนายสี จิ้นผิง จะได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนเป็นสมัยที่ 3 แล้ว เขายังได้รับการต่ออายุให้นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เป็นสมัยที่ 3 ซึ่งเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองจีน ในฐานะเป็นผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดต่อจากเหมา เจ๋อตุง
ในการกล่าวสุนทรพจน์วันเปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 นายสีให้คำมั่นว่าจะออกมาตรการกอบกู้สถานะจีนให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการโควิดเป็นศูนย์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ทิศทางของจีนน่าจะเป็นการสร้างความต่อเนื่องของนโยบายที่สำคัญ ๆ ในช่วง 10 ปีแรกของนายสี ซึ่งรวมถึงนโยบาย Dual Circulation หรือยุทธศาสตร์วงจรคู่ขนานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีน
2. นายหลี่ เฉียง วัย 63 ปี
เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครเซี่ยงไฮ้ และเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลนครเซี่ยงไฮ้ในช่วงที่มีการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า นายหลี่ เฉียง จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่ แทนนายหลี่ เค่อเฉียง ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนมี.ค.ปีนี้
3. นายจ้าว เล่อจี้ วัย 65 ปี
บุคลากรคนสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการตรวจสอบวินัยพรรคซึ่งทำหน้าที่ปราบปรามการทุจริต ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำว่า จีนยังคงให้ความสำคัญกับการปราบปรามคอร์รัปชันในประเทศ ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า นายจ้าวจะได้รับการวางตัวเป็นประธานสภาประชาชนคนใหม่ ซึ่งถือเป็นผู้นำอันดับ 3 ของจีน
4. นายหวัง ฮู่หนิง วัย 67 ปี
หนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในฐานะผู้เขียนนโยบายให้กับประธานาธิบดีจีนหลายคน ซึ่งรวมถึงนายสี จิ้นผิง, นายหู จิ่นเทา และนายเจียง เจ๋อหมิน นอกจากนี้ นายหวังยังเป็นนักอุดมการณ์และผู้ขับเคลื่อนนโยบายธรรมาภิบาลทางอินเทอร์เน็ตของจีน และเคยดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการชุดเดิม
5. นายไช่ ฉี วัย 66 ปี
เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำกรุงปักกิ่ง มีผลงานโดดเด่นจากการความสำเร็จในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เข้มงวด นอกจากนี้ นายไช่ยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่นายสี จิ้นผิง ไว้ใจมากที่สุด
6. นายติง เซวียเสียง วัย 60 ปี
หนึ่งในพันธมิตรคนสำคัญของนายสี จิ้นผิง ซึ่งแม้ว่าเขาไม่เคยรับตำแหน่งผู้นำในมณฑลใด แต่ก็มักจะปรากฏภาพเขาอยู่เคียงข้างนายสีระหว่างการเดินทางเยือนพื้นที่ต่าง ๆ ของจีน ซึ่งรวมถึงการเดินทางเยือนฮ่องกงในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
7. นายหลี่ ซี วัย 66 ปี
อีกหนึ่งในพันธมิตรผู้ใกล้ชิดของนายสี จิ้นผิง โดยปัจจุบันนายหลี่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมณฑลกวางตุ้ง และเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้งและเกาะฮ่องกง โดยมีการคาดการณ์ว่า นายหลี่จะได้รับความไว้วางใจจากนายสีให้ดูแลเรื่องการปราบคอร์รัปชันของพรรคคอมมิวนิสต์