สำนักข่าว KCNA ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานในวันนี้ว่า นางคิม โยจอง น้องสาวของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเตือนว่า หากพบความพยายามใด ๆ ก็ตามที่ยิงขีปนาวุธสำหรับใช้ทดสอบของเกาหลีเหนือ จะถูกมองว่าเป็นการประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือทันที พร้อมกล่าวโทษการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐ เกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น
นางคิม โยจอง ออกแถลงการณ์ว่า หากสหรัฐดำเนินการทางทหารเพื่อต่อต้านการทดสอบขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือจะถือว่าเป็นการประกาศสงคราม นางคิมยังกล่าวเป็นนัยอีกว่าเกาหลีเหนือสามารถยิงขีปนาวุธลงมหาสมุทรแปซิฟิกเพิ่มมากขึ้นอีก พร้อมระบุว่า "มหาสมุทรแปซิฟิกไม่ได้ตกอยู่ใต้อำนาจของสหรัฐหรือญี่ปุ่น"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ที่ผ่านมานั้นสหรัฐและชาติพันธมิตรไม่เคยยิงขีปนาวุธนำวิถีของเกาหลีเหนือ แต่หลายฝ่ายกังวลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้น หลังจากที่เกาหลีเหนือส่งสัญญาณว่าจะยิงขีปนาวุธข้ามเขตแดนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีก
ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า หากเกาหลีเหนือปฏิบัติตามคำขู่ในการเปลี่ยนมหาสมุทรแปซิฟิกให้กลายเป็น "สนามยิงขีปนาวุธ" ก็จะส่งผลให้เกาหลีเหนือซึ่งเป็นประเทศที่ถูกโดดเดี่ยวและเป็นรัฐที่ติดอาวุธนิวเคลียร์นั้น สามารถสร้างความก้าวหน้าทางเทคนิค นอกเหนือจากการส่งสัญญาณข่มขู่ทางทหาร
ขณะที่ฝ่ายข่าวต่างประเทศของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์กล่าวหาสหรัฐว่าทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง หลังจากที่ซ้อมรบร่วมทางอากาศด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 เมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) และวางแผนซ้อมรบภาคสนามร่วมกับเกาหลีใต้
ทั้งนี้ สหรัฐได้ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ในการซ้อมรบร่วมกับเครื่องบินขับไล่ของเกาหลีใต้ ซึ่งกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้กล่าวว่าการซ้อมรบร่วมดังกล่าวคือการแสดงแสนยานุภาพต่อการข่มขู่ด้วยอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
รายงานระบุอีกว่า สหรัฐและเกาหลีใต้จะดำเนินการซ้อมรบขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Freedom Shield ซึ่งจะเริ่มต้นในสัปดาห์หน้า