นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ถูกศาลมาเลเซียตั้งข้อหาฟอกเงิน ซึ่งนับเป็นข้อหาที่เจ็ดในคดีอาญาที่นายมูห์ยิดดินเผชิญภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนหลังจากพ่ายแพ้การเลือกตั้ง โดยนายมูห์ยิดดินเป็นหัวหน้าพรรคเบอร์ซาตู (Malaysian United Indigenous Party) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน
สำนักข่าวเบอร์นามาของรัฐบาลมาเลเซียรายงานในวันนี้ (13 มี.ค.) ว่า นายมูห์ยิดดินถูกกล่าวหาว่าได้รับเงิน 5 ล้านริงกิต (1.1 ล้านดอลลาร์) มาอย่างผิดกฎหมาย โดยคดีนี้จะถูกย้ายไปยังศาลในกรุงกัวลาลัมเปอร์ต่อไป
หนังสือพิมพ์มาเลเซียกินีรายงานว่า นายมูห์ยิดดิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ศาลในรัฐสลังงอร์ว่า "ผมขอปฏิเสธความผิดและขอให้คดีนี้มีการไต่สวน" โดยข้อหาดังกล่าวมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปีและปรับเงิน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค. นายมูห์ยิดดิน ถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบ 4 กระทง และฟอกเงิน 2 กระทง ซึ่งรวมเป็นเงิน 427.5 ล้านริงกิต โดยนายมูห์ยิดดินกล่าวว่าตนถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีในทางมิชอบ ด้วยการแต่งตั้งผู้รับเหมาสำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และอนุมัติการยื่นอุทธรณ์การยกเว้นภาษีโดยมูลนิธิการกุศลอัล-บูคารี ซึ่งนายมูห์ยิดดินปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
อนึ่ง ข้อกล่าวหาของนายมูห์ยิดดินนับเป็นแรงกระเพื่อมจากคดีอื้อฉาวของนายนาจิบ ราซัค อดีตรัฐมนตรีมาเลเซียที่พ้นตำแหน่งเมื่อปี 2561 โดยนายนาจิบถูกแจ้งข้อหาจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการ 1MDB และขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรับโทษจำคุก 12 ปี