สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนจะกลับมาออกวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกครั้ง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเปิดประเทศ หลังจากบังคับใช้มาตรการจำกัดโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดมานานหลายปี
สถานเอกอัคราชทูตจีนประจำสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป (15 มี.ค.) นอกจากนี้ จีนจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติจากฮ่องกงและมาเก๊าเดินทางเข้ามณฑลกวางตุ้งแบบเป็นกลุ่ม โดยไม่ต้องมีวีซ่า รวมถึงให้สิทธิ์ฟรีวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติบนเรือสำราญที่แวะจอดที่เซี่ยงไฮ้
รายงานระบุว่า การกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญที่แสดงให้เห็นว่า จีนกำลังละทิ้งนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่เข้มงวด โดยนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งประกอบด้วยการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์บ่อยครั้ง การตรวจหาเชื้อแบบเป็นวงกว้าง และการปิดพรมแดน ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน โดยเฉพาะเมื่อปีที่ผ่านมา แต่รัฐบาลจีนได้สั่งยกเลิกนโยบายดังกล่าวแบบกะทันหันเมื่อช่วงต้นเดือนธ.ค. หลังเกิดเหตุประท้วงในหลายเมืองของจีน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
แรกเริ่มนั้นจีนได้ยุติมาตรการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญก้าวแรกในการกลับมาเปิดพรมแดนของจีน หลังจากปิดไปนานเกือบ 3 ปีเพื่อสกัดไวรัสโควิด-19
ต่อมาทางการจีนได้ผ่อนปรนมาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับนักเดินทางจากไม่กี่ประเทศตั้งแต่เดือนมี.ค. เช่น นิวซีแลนด์ รัสเซีย และมาเลเซีย โดยปัจจุบัน นักเดินทางเพียงแค่ต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 แบบแอนติเจนที่เป็นลบ ก่อนขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปยังประเทศจีน และสายการบินไม่จำเป็นต้องตรวจสอบผลการตรวจหาเชื้อก่อนขึ้นเครื่อง
นับตั้งแต่ยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก โดยในระหว่างการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติในสัปดาห์นี้ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนพยายามมากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ 5% ในปี 2566