ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เดินทางเยือนเมืองมาริอูโปลในยูเครนซึ่งรัสเซียเข้ายึดครองมานานกว่า 10 เดือน หลังจากที่เป็นสมรภูมิความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดแห่งหนึ่ง
ทำเนียบเครมลินแถลงว่า ปธน.ปูตินเดินทางไปยังเมืองมาริอูโปลด้วยเฮลิคอปเตอร์ จากนั้นได้ขับรถยนต์ด้วยตัวเองไปตามท้องถนนในเมืองเพื่อเยี่ยมเยือนสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงตรวจความคืบหน้าของงานก่อสร้างเพื่อฟื้นฟูเมือง และได้พูดคุยกับชาวบ้านในท้องถิ่นด้วย
องค์การสหประชาชาติ (UN) ประมาณการว่าอาคารบ้านเรือนในเมืองมาริอูโปลราว 90% ได้รับความเสียหายจากสงคราม และประชาชนราว 350,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีว่า รัสเซียกำลังพยายามทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสร้างเมืองขึ้นมาใหม่และเอาชนะใจชาวบ้าน โดยมีเป้าหมายในการผนวกเมืองมาริอูโปลให้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในที่สุด
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 มี.ค.) ผู้นำรัสเซียก็เพิ่งเดินทางเยือนคาบสมุทรไครเมีย เนื่องในวาระครบรอบ 9 ปีการผนวกรวมไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในปี 2557
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของผู้นำรัสเซียเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 มี.ค.) ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้ออกหมายจับนายปูติน และนางมาเรีย อเล็กเซเยฟนา ลโววา-เบโลวา ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิเด็กของรัสเซีย ฐานก่ออาชญากรรมสงครามด้วยการเนรเทศและย้ายถิ่นฐานประชากรที่เป็นเด็กอย่างผิดกฎหมายจากพื้นที่ยึดครองในยูเครนเข้าไปยังรัสเซีย