ติ๊กต๊อกเปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า จำนวนผู้ใช้งานติ๊กต๊อกรายเดือนในสหรัฐอยู่ที่ระดับ 150 ล้านราย เพิ่มจากระดับ 100 ล้านรายในปี 2563
ตัวเลขดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าความนิยมในการใช้งานแอปพลิเคชันติ๊กต๊อกเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มชาวอเมริกันวัยรุ่น โดยนางจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า อาจมีผลกระทบทางการเมืองหากมีการแบนติ๊กต๊อก โดยกล่าวว่า "ในฐานะนักการเมือง ดิฉันมองว่าคุณอาจจะสูญเสียเสียงโหวตจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนที่อายุต่ำกว่า 35 ปีไปตลอดกาล"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 มี.ค.) มีวุฒิสมาชิกสหรัฐอีก 6 รายที่แสดงการสนับสนุนร่างกฎหมายที่จะให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ มีอำนาจที่จะสั่งแบนติ๊กต๊อกด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ขณะที่ก่อนหน้านี้ ติ๊กต๊อกระบุว่า คณะทำงานของปธน.ไบเดนเรียกร้องให้บริษัทไบต์แดนซ์ของจีนซึ่งเป็นเจ้าของแอปติ๊กต๊อก ทำการขายหุ้นติ๊กต๊อก มิฉะนั้นติ๊กต๊อกจะถูกแบนการใช้งานในสหรัฐ
ติ๊กต๊อกเผชิญแรงกดดันมากขึ้นในสหรัฐ รวมถึงการเรียกร้องให้แบนการใช้งานจากหลายฝ่ายในสภาคองเกรส เนื่องจากกังวลว่าข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐอาจตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลจีน ขณะที่ติ๊กต๊อกเปิดเผยในเดือนก.ย. 2564 ว่า มีผู้ใช้งานติ๊กต๊อกทั่วโลกแล้วกว่าเดือนละ 1 พันล้านราย
ทั้งนี้ โซว จื่อ โจว (Shou Zi Chew) ซีอีโอของติ๊กต๊อก เตรียมเข้าให้การกับคณะกรรมาธิการด้านพลังงานและพาณิชย์ (E&C) ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันที่ 23 มี.ค.เกี่ยวกับนโยบายความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของแอปพลิเคชันติ๊กต๊อก รวมถึงความสัมพันธ์ของติ๊กต๊อกกับรัฐบาลจีนผ่านทางไบต์แดนซ์ซึ่งเป็นบริษัทแม่