นายดีเร็ก โชเลต์ ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่กรุงจาการ์ตาในวันนี้ (22 มี.ค.) ว่า สหรัฐจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อองค์กรและบุคคลในเมียนมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรนี้จะทำให้รัฐบาลทหารของเมียนมาเผชิญความยากลำบากในการสร้างรายได้เพื่อซื้ออาวุธ
นายโชเลต์กล่าวว่า "เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลทหาร และทำให้พวกเขาเผชิญความยากลำบากในการสร้างรายได้ซึ่งถูกใช้เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางทหาร เมียนมากำลังกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
กองทัพเมียนมาได้โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในปี 2564 และหลังจากนั้นได้ทำการปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างรุนแรง ทำให้ประเทศตกอยู่ในภาวะปั่นป่วนวุ่นวาย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐและบรรดาประเทศตะวันตกได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรหลายชุดที่กำหนดเป้าหมายไปที่สมาชิกรัฐบาลทหาร หน่วยงานของรัฐบาลทหาร และบริษัทของรัฐบาลทหาร เพื่อพยายามจำกัดความสามารถในการระดมเงิน
นายโชเลต์กล่าวว่า "จนถึงปัจจุบัน สหรัฐได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรบุคคล 80 ราย และนิติบุคคลมากกว่า 30 รายในเมียนมา และถ้าหากต้องการหาทางออกสำหรับความขัดแย้งในเมียนมานั้น รัสเซียจะต้องหยุดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา"