ประชาชนฝรั่งเศสหลายแสนคนนัดหยุดงานและเดินขบวนประท้วงในวันนี้ (23 มี.ค.) หลังประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศสลั่นวาจาว่าจะผลักดันแผนปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญ แม้จะยิ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การประท้วงต่อต้านกฎหมายเพิ่มอายุเกษียณจาก 62 เป็น 64 ปี ซึ่งจัดโดยสหภาพแรงงาน ดึงดูดผู้คนมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา
สหภาพแรงงานระบุว่า การประท้วงทั่วประเทศในวันที่ 9 จะดึงดูดผู้คนจำนวนมากมารวมกันต่อต้านการ "สบประมาท" และ "คำโกหก" ของนายมาครง
ทั้งนี้ นายมาครงได้สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาสหภาพและพรรคฝ่ายค้านเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) หลังเขาปฏิเสธที่จะรับฟังเสียงเรียกร้องให้ใส่ใจถึงความไม่พอใจของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น
นายฟิลิปเป้ มาร์ติเนซ ซึ่งเป็นผู้นำสมาพันธ์แรงงานทั่วไป (CGT) ระบุว่า การเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดที่เราจะตอบโต้ปธน.ได้คือการหยุดงานประท้วงและการเดินขบวนตามท้องถนนของประชาชนนับล้านคน
การหยุดงานประท้วงในวันนี้จะทำให้การเดินรถไฟหยุดชะงักอย่างรุนแรง ซึ่งจะส่งผลให้สนามบินได้รับผลกระทบไปด้วย ขณะเดียวกัน ครู อาจารย์ รวมถึงอาชีพอื่น ๆ ต่างพากันผละงาน ในขณะที่การหยุดงานประท้วงที่คลังน้ำมันและพนักงานเก็บขยะยังคงดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้การประท้วงส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสันติ แต่ความไม่พอใจกลับยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อรัฐบาลใช้อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญผลักดันการอนุมัติกฎหมาย โดยไม่ผ่านการลงคะแนนเสียงในรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ในถ้อยแถลงเมื่อวานนี้ นายมาครงยืนกรานอย่างหนักแน่นว่า กฎหมายใหม่มีความจำเป็นและจะมีผลบังคับใช้ในปลายปีนี้