บรรดาผู้เชี่ยวชาญคาดว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะต้องหันไปพึ่งศาลเพื่อฟ้องร้องและสั่งแบนติ๊กต๊อก (TikTok) ซึ่งเป็นแอปวิดีโอสั้นยอดนิยมของจีน หลังจากที่นายโช ชู (Shou Chew) ซีอีโอของติ๊กต๊อก ไม่สามารถคลายความวิตกกังวลต่าง ๆ ของสหรัฐ ในการเข้าให้การกับสภาคองเกรสเป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมงเมื่อวันพฤหัสบดี (23 ม.ค.)
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สมาชิกสภาฯ สหรัฐได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับการที่ติ๊กต๊อกเป็นบริษัทลูกของไบต์แดนซ์ซึ่งเป็นบริษัทของจีน และกังวลว่า จีนมีแนวโน้มที่จะเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานติ๊กต๊อกชาวอเมริกันหลายล้านคน และจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ
ด้านติ๊กต๊อกนั้นได้พิจารณาที่จะแยกกิจการออกจากไบต์แดนซ์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ แต่รัฐบาลจีนได้ออกมาคัดค้านการบังคับขายติ๊กต๊อก
ผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นว่า ไม่มีแนวโน้มที่ติ๊กต๊อกจะขายกิจการ ขณะที่แทบไม่มีผู้เต็มใจจะซื้อทรัพย์สินที่มีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
รัฐบาลสหรัฐอาจต้องใช้กระบวนการทางกฎหมายเพื่อที่จะสั่งแบนติ๊กต๊อก แต่จากการฟ้องร้องที่ผ่านมานั้นได้แสดงให้เห็นว่า ผู้พิพากษาเองก็ลังเลที่จะดำเนินคดีดังกล่าว อันเนื่องมาจากข้อกังวลเกี่ยวกับประเด็นสิทธิเสรีภาพในการพูด
ทั้งนี้ ติ๊กต๊อกสามารถรอดพ้นจากการฟ้องร้องของรัฐบาลสหรัฐในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ต้องการจะแบนติ๊กต๊อกในสหรัฐในปี 2563