ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนกล่าวกับนายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังด้านนิวเคลียร์ของสหประชาชาติเมื่อวันจันทร์ (27 มี.ค.) ว่า ยูเครนไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (Zaporizhzhia) ได้ จนกว่ากองกำลังทหารของรัสเซียจะออกจากโรงไฟฟ้าดังกล่าว
กองกำลังทหารของรัสเซียได้เข้ายึดโรงไฟฟ้าซาโปริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในยุโรปในเดือนมี.ค. 2565 ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของสงคราม และรัฐบาลรัสเซียก็ไม่ได้มีวี่แววว่าจะยกเลิกการควบคุมโรงไฟฟ้าดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวว่า พวกเขาต้องการให้โรงไฟฟ้าซาโปริซเซียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
ทั้งนี้ นายเซเลนสกีระบุบนเว็บไซต์ของประธานาธิบดีว่า "หากทหารและเจ้าหน้าที่รัสเซียที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซียและพื้นที่ใกล้เคียงไม่ถอนกำลังออกในทันที การริเริ่มฟื้นฟูความปลอดภัยและความมั่นคงทางนิวเคลียร์ใด ๆ จะประสบความล้มเหลว"
รัสเซียและยูเครนมักกล่าวโทษกันและกันว่าใช้ระเบิดทำลายโรงไฟฟ้าแห่งนี้และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ โดยการต่อสู้บริเวณโรงไฟฟ้าและความกังวลเรื่องระบบหล่อเย็นอาจสูญเสียพลังงานนั้น ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการเกิดภัยพิบัติด้านนิวเคลียร์
ด้านนายกรอสซีได้เรียกร้องให้กำหนดเขตปลอดภัยรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซียหลายครั้ง และมีกำหนดจะเดินทางไปยังโรงไฟฟ้าดังกล่าวอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ซึ่งเขาได้พยายามเจรจากับทั้งสองฝ่าย และเคยระบุในเดือนม.ค.ที่ผ่านมาว่า การทำข้อตกลงเริ่มยากลำบากมากขึ้น