นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวในวันนี้ (31 มี.ค.) ว่าจะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเป็นเวลา 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ รวมถึงกรณีที่จีนควบคุมตัวพนักงาน บริษัท แอสเทลลัส ฟาร์มา อิงค์ (Astellas Pharma Inc) ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของญี่ปุ่น
นายฮายาชิให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า จะเข้าพบปะกับนายฉิน กัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน ในการหารืออย่างจริงใจและตรงไปตรงมา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และมั่นคง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กำหนดการเดินทางเยือนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนจำกัดการส่งออกอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ 23 ประเภท ในการจัดการด้านการค้าเทคโนโลยีเพื่อให้สอดคล้องกับการผลักดันของสหรัฐ ในการจำกัดความสามารถของจีนในการผลิตชิปขั้นสูง
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่อง พนักงานชายชาวญี่ปุ่นของแอสเทลลัส ฟาร์มา ที่ถูกควบคุมตัวในจีนโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยโฆษกของบริษัทเปิดเผยกับสำนักรอยเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ (26 มี.ค.) ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ขอให้ทางการจีนปล่อยตัวชายคนดังกล่าว
เมื่อถูกถามถึงประเด็นพนักงานของแอสเทลลัสและกรณีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟุกุชิมะไดอิจิ (Fukushima Dai-ichi) ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจากสึนามิเมื่อปี 2554 จะปล่อยน้ำลงสู่มหาสมุทรนั้น จะถูกหยิบยกถึงมากล่าวถึงหรือไม่ นายฮายาชิตอบว่า "เราวางแผนที่จะทำให้จุดยืนของเราชัดเจนในหลาย ๆ ประเด็น รวมถึงประเด็นเหล่านี้ด้วย ระหว่างที่ผมเยือนจีน"
ทั้งนี้ แผนการเดินทางเยือนจีนของนายฮายาชิเกิดขึ้นหลังจากการพูดคุยระดับผู้นำของญี่ปุ่นและจีนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ซึ่งมีขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอดระดับนานาชาติเมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว
ในขณะนั้น นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่น กล่าวว่า มีความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนเพิ่มกำลังทหารทางทะเล แต่ก็ยังกล่าวด้วยว่า ทั้งจีนและญี่ปุ่นได้ตกลงที่จะเปิดช่องทางการสื่อสารทางการทูตอีกครั้ง รวมถึงการส่งรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นไปเยือนจีนด้วย