เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเบลารุสเปิดเผยว่า รัสเซียจะเคลื่อนย้ายอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีเข้าใกล้ชายแดนฝั่งตะวันตกของเบลารุส ซึ่งใกล้กับพรมแดนของนาโต้ และคาดว่าจะเพิ่มความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก
ทั้งนี้ เบลารุสมีชายแดนติดกับโปแลนด์ ลิธัวเนียและลัตเวีย ซึ่งล้วนเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ขณะที่ยูเครนติดชายแดนตอนใต้ และรัสเซียอยู่ทางตะวันออก
เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียประกาศว่าจะติดตั้งฐานอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีในเบลารุส ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสัญญาณอาวุธนิวเคลียร์ที่ชัดเจนที่สุดของรัสเซียนับตั้งแต่เข้าบุกโจมตียูเครนในเดือนก.พ. 2565
เบลารุสและรัสเซียได้กระชับความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้น โดยกระบวนการนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็งหลังจากเบลารุสอนุญาตให้รัสเซียใช้ดินแดนเบลารุสเพื่อส่งทหารเข้าไปในยูเครนเมื่อปีที่แล้ว
กระทรวงการต่างประเทศของเบลารุสอ้างว่า การที่เบลารุสตัดสินใจให้รัสเซียนำอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีเข้ามาติดตั้งในประเทศนั้น เนื่องจากนาโตกำลังเพิ่มอาวุธและกำลังทหารในประเทศเพื่อนบ้านของเบลารุส "เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงความกังวลและความเสี่ยงต่อความมั่นคง เบลารุสจึงต้องใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อสร้างความแข็งแกร่งต่อความสามารถในการป้องกันประเทศ" กระทรวงต่างประเทศเบลารุสกล่าว
นายบอริส กริสลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเบลารุสให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของรัฐเบลารุสว่า อาวุธนิวเคลียร์จะถูกเคลื่อนย้ายไปยังชายแดนตะวันตกของรัฐสหภาพของเรา และจะยกระดับการประกันความปลอดภัย
"เราจะดำเนินการจนแล้วเสร็จ แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากยุโรปและสหรัฐ" นายกริสลอฟระบุ
ทั้งนี้ นายกริสลอฟไม่ได้ระบุว่าอาวุธนิวเคลียร์จะถูกประจำการที่ใด แต่ยืนยันว่าโรงเก็บอาวุธนิวเคลียร์จะแล้วเสร็จตามคำสั่งของปธน.ปูตินภายในวันที่ 1 ก.ค. แล้วจึงย้ายไปทางตะวันตกของเบลารุส
ขณะที่ชาติพันธมิตรของสหรัฐและยูเครนระบุว่า พวกเขากังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะส่งมอบอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีไปยังเบลารุส โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ากังวล