สหรัฐประกาศให้คำมั่นเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) ว่าจะสนับสนุนอาวุธและยุทโธปกรณ์ทางการทหารอื่น ๆ รอบใหม่ให้แก่ยูเครน มูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงเรดาร์ตรวจการณ์ทางอากาศ จำนวน 3 ชุด จรวดต่อต้านรถถัง และรถบรรทุกเชื้อเพลิง จนถึงตอนนี้ สหรัฐให้การสนับสนุนทางการทหารแก่ยูเครนไปแล้วทั้งสิ้น 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ที่สงครามกับรัสเซียเปิดฉากขึ้น
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เดินทางเยือนโปแลนด์อย่างเป็นทางการในวันนี้ (5 เม.ย.) โดยโปแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรและประเทศเพื่อนบ้าน ได้ให้การช่วยเหลือชาวยูเครนหลายล้านคนในการอพยพและช่วยจัดหาสรรพาวุธที่จำเป็นให้แก่รัฐบาลยูเครน
ด้าน ปธน.เอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ก็ได้เดินทางถึงกรุงปักกิ่ง หลังจากที่เห็นพ้องกับปธน.โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ว่าจะพยายามร่วมมือกับจีนเพื่อเร่งการยุติการโจมตียูเครนของรัสเซียโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้สงครามได้เข้าสู่ปีที่ 2
สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียระบุว่า สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตันออกมาประณามสหรัฐว่าต้องการให้ความขัดแย้งยืดเยื้อออกไปให้นานที่สุด
สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ชุดความช่วยเหลือรอบล่าสุดของสหรัฐมีขึ้นในขณะที่ยูเครนกำลังเตรียมตัวเปิดฉากตอบโต้กองทัพรัสเซียที่กำลังรุกโจมตีทางตะวันออก และยังไม่มีการเปิดเผยเวลาที่แน่ชัดของปฏิบัติการดังกล่าว
ทั้งนี้ จุดสนใจของสนามรบยังคงเป็นเมืองบัคมุต ซึ่งเป็นเมืองเหมืองแร่และศูนย์กลางการขนส่งบริเวณชายขอบของแคว้นโดเนสก์ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกรัสเซียยึดครองเอาไว้ การสู้รบส่งผลให้กองกำลังของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตจำนวนมาก และเมืองส่วนใหญ่เสียหายจนเหลือเพียงซากปรักหักพังหลังการต่อสู้บนท้องถนนและการทิ้งระเบิดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของเมืองบัคมุตในวันนี้ยังคงไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด หลังจากที่รัสเซียระบุในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พวกเขาสามารถยึดครองใจกลางเมืองได้แล้ว ขณะที่ยูเครนปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว