สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนคนสำคัญของจีน 2 คนถูกตัดสินจำคุกมากกว่า 10 ปี โดยหนึ่งในนี้เป็นคนที่เรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ลงจากตำแหน่ง
ภายหลังเสร็จสิ้นการพิจารณาคดีลับ นายสวี่ จื้อหย่ง (Xu Zhiyong) และนายติง จยาสี่ (Ding Jiaxi) ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐาน "ล้มล้างอำนาจรัฐ"
ทั้งคู่เป็นสมาชิกคนสำคัญในขบวนการพลเมืองใหม่ (New Citizens' Movement) ซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิพลเมืองที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปรัฐธรรมนูญจีนและวิพากษ์วิจารณ์การคอร์รัปชันของรัฐบาลจีน
กลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์รายงานว่า นายสวี่ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 14 ปีในการพิจารณาคดีลับ ณ มณฑลชานตง ทางตะวันออกของจีน หลังจากที่นายสวี่เรียกร้องให้ปธน.สีลาออก กรณีจัดการปัญหาโควิด-19 ผิดพลาด
ขณะเดียวกัน นางหลัว เซิ่งชุน (Luo Shengchun) ภรรยาของนายติง เปิดเผยกับเอเอฟพีว่านายติง "ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 12 ปี และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 3 ปี" ซึ่งหมายความว่าหลังออกจากคุกแล้ว นายติงจะถูกห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งราชการ 3 ปี
"คำตัดสินและบทลงโทษอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับสวี่ จื้อหย่ง และติง จยาสี่ แสดงให้เห็นว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แสดงความเป็นปรปักษ์อย่างไม่ลดละต่อการเคลื่อนไหวอย่างสันติ" นางหวัง ย่าชิว (Yaqiu Wang) นักวิจัยจีนจากฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าว
ทางกลุ่มสิทธิฯ กล่าวว่า การพิจารณาคดีของนายสวี่และนายติง "เต็มไปด้วยปัญหาด้านกระบวนการและข้อกล่าวหาว่ามีการทารุณกรรม"
เมื่อเดือนธ.ค. 2562 นายติงถูกควบคุมตัวหลังจากเข้าร่วมประชุมลับกับนักเคลื่อนไหวและทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน โดยการประชุมครั้งนี้มีนายสวี่เข้าร่วมด้วย
ต่อมาในเดือนก.พ. 2563 นายสวี่ถูกจับกุม หลังจากเขียนบล็อกโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ปธน.สีที่ใช้วิธีเข้มงวดในการรับมือกับวิกฤต ซึ่งรวมถึงปัญหาการระบาดของโควิด-19 และการประท้วงในฮ่องกง โดยก่อนหน้านี้ นายสวี่เคยรับโทษจำคุก 4 ปี หลังจากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแสดงรายการทรัพย์สินส่วนตัวต่อสาธารณชน