นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ปธน.เอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เดินทางไปจีนเพื่อ "เลียแข้งเลียขา" (kissing his ass) ของปธน.สี จิ้นผิง
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับนายทักเกอร์ คาร์ลสัน ผู้ประกาศข่าวช่องฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งเป็นการปรากฏตัวในสื่อกระแสหลักเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่นายทรัมป์ถูกฟ้องในนิวยอร์ก โดยกล่าวว่า สหรัฐสูญเสียอิทธิพลในโลกตั้งแต่ตัวเขาลงจากตำแหน่งปธน.
"คุณมีโลกบ้าคลั่งใบนี้ที่กำลังเละตุ้มเป๊ะ และสหรัฐไม่มีอิทธิพลอะไรเลย" นายทรัมป์กล่าว "และมาครงเพื่อนผมก็ไปจีน เลียแข้งเลียขาปธน.สีในจีน! โอเค ผมบอกเลยว่า ?ฝรั่งเศสกำลังจะไปอยู่กับจีนแล้ว?"
คำวิจารณ์ของทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่ปธน.มาครงจุดชนวนความขัดแย้งหลังจากการเยือนจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งปธน.มาครงกล่าวว่า ชาติยุโรปไม่ควรผูกมัดตัวเองกับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ และไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องในสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐในประเด็นไต้หวัน
ปธน.มาครงซึ่งหารือกับปธน.สีในเรื่องไต้หวันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 เม.ย.) ได้เตือนว่ายุโรปกำลัง "ติดอยู่ในวิกฤตที่ไม่ใช่เรื่องของเรา ซึ่งทำให้เราไม่สามารถสร้างเอกราชเชิงยุทธศาสตร์ได้"
"ความย้อนแย้งก็คือ เราตื่นตระหนกมากเสียจนเราเชื่อว่าเราเป็นแค่บริวารของอเมริกา ที่แย่ไปกว่านั้นคือการคิดว่าพวกเราชาวยุโรปต้องกลายเป็นแค่ผู้ตามในประเด็นนี้ และคอยดูสัญญาณจากวาระของสหรัฐกับปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงของจีน" ปธน.มาครงกล่าว
คำพูดดังกล่าวจุดชนวนความวิตกแก่คนในรัฐบาลสหรัฐ อย่างไรก็ดี นายจอห์น เคอร์บี โฆษกของทำเนียบขาวกล่าวว่าฝ่ายบริหารของปธน.ไบเดนยังคง "สบายใจและมั่นใจในความสัมพันธ์ทวิภาคีอันยอดเยี่ยมที่เรามีกับฝรั่งเศส"