นางชเว ซอนฮี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือ ประกาศถึงสหรัฐอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในรอบครึ่งปี ว่า เกาหลีเหนือจะไม่ยอมละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ และจะลงโทษสมาชิกกลุ่ม G7 ที่พยายามเปลี่ยนแปลงเรื่องดังกล่าว
สำนักข่าวกลาง (KCNA) ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานในวันนี้ (21 เม.ย.) ว่า นางชเว เผยในแถลงการณ์ว่า "สถานะของเกาหลีเหนือในฐานะประเทศที่ถือครองอาวุธนิวเคลียร์จะยังคงเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้อย่างเด็ดขาด ไม่สำคัญว่าสหรัฐและชาติตะวันตกจะยอมรับหรือไม่ ในอีกร้อยปีหรืออีกหลายพันปีข้างหน้า"
ถ้อยแถลงดังกล่าวเป็นเครื่องย้ำเตือนว่า นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ อาจพยายามผลักดันตัวเองให้เป็นวาระการประชุมของผู้นำประเทศกลุ่ม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนหน้า โดยระบอบการปกครองของนายคิมได้กระตุ้นให้เกิดความตึงเครียดในระดับที่ไม่ได้พบเห็นมาเป็นเวลาหลายปี ด้วยการทดสอบอาวุธชนิดใหม่หลายต่อหลายครั้งเพื่อเสริมศักยภาพในการโจมตีด้วยหัวรบนิวเคลียร์ รวมถึง ขีปนาวุธข้ามทวีปแบบใช้เชื้อเพลิงแข็ง ซึ่งได้ทำการยิงทดสอบครั้งแรกในเดือนนี้ โดยขีปนาวุธดังกล่าวสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ และสามารถยิงได้ไกลถึงสหรัฐในเวลาไม่นาน
"เราได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า เราไม่สนใจว่ากลุ่ม G7 จะทำอะไร เว้นเสียแต่ว่าจะมีพฤติกรรมใด ๆ ที่พยายามละเมิดอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของเกาหลีเหนือ ซึ่งความพยายามเหล่านั้นจะถูกขัดขวางอย่างสมบูรณ์ด้วยการตอบโต้ที่รุนแรง" นางชเว กล่าว
ทางด้าน นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เจ้าภาพการประชุม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองฮิโรชิมา ได้รณรงค์ยุติการใช้อาวุธนิวเคลียร์มาโดยตลอด พร้อมทั้งประท้วงเรื่องความถี่ในการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ซึ่งขัดต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่สั่งห้ามไม่ให้เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธ