ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งมีนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เป็นประธานหมุนเวียนในเดือนนี้ สหรัฐและพันธมิตรชาติตะวันตกรุมจวกรัสเซียกรณีสงครามที่เกิดขึ้นในยูเครน พร้อมกล่าวหารัสเซียว่า ละเมิดหลักกฎบัตร UN อย่างร้ายแรง
นางลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำ UN กล่าวว่า "รัสเซีย ผู้นำการประชุมจอมเสแสร้งของเราในวันนี้ ได้รุกรานยูเครน ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของตนเอง และเหยียบย่ำหัวใจสำคัญของกฎบัตรสหประชาชาติ"
อนึ่ง กฎบัตรดังกล่าวเป็นเอกสารการก่อตั้งของ UN ที่มีการให้คำมั่นว่าจะรักษาอธิปไตย สันติภาพ ความยุติธรรม และการป้องกันสงคราม
"สงครามที่ไร้ซึ่งความจำเป็นและไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกิดขึ้นโดยปราศจากการยั่วยุ ขัดกับหลักการอันศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของเราโดยตรงซึ่งระบุว่า สงครามเพื่อรุกรานและพิชิตดินแดนจะไม่มีวันได้รับการยอมรับอย่างเด็ดขาด" นางลินดากล่าว
"วันนี้อาจเป็นยูเครน แต่ในอนาคตอาจมีประเทศเล็ก ๆ อื่น ๆ ที่ต้องเป็นเหยื่อสังเวยการรุกรานจากชาติเพื่อนบ้านที่ใหญ่โตกว่า" นางลินดาเสริม
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN ซึ่งนั่งอยู่ติดกับนายลาฟรอฟ ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำสงครามรุกรานยูเครน พร้อมระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎบัตร UN และกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
นายกูเตอร์เรสระบุว่า "ความขัดแย้งได้ก่อให้เกิดความทุกข์ยากและหายนะมหาศาลต่อประเทศชาติและประชาชนของยูเครน ทั้งยังซ้ำเติมความยุ่งเหยิงทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่เกิดจากการระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อโควิด-19
ด้านนางบาร์บารา วูดเวิร์ด เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรอังกฤษประจำ UN กล่าวว่า สงครามของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้สร้างความทุกข์ยากแสนสาหัสชนิดที่ไม่อาจจินตนาการได้ให้แก่ยูเครน ไปพร้อมกับเหยียบย่ำกฎบัตร UN
สงครามดังกล่าวยังนำมาซึ่ง "ความย่อยยับที่ยากจะฟื้นฟูแก่รัสเซียด้วยเช่นกัน" นางวูดเวิร์ดกล่าว