ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย เปิดเผยในวันนี้ (11 พ.ค.) ว่า กองทัพเมียนมาขาดความคืบหน้าอย่างจริงจังในการปฏิบัติตามแผนสันติภาพที่ลงนามกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เมื่อ 2 ปีก่อน และอาเซียนต้องแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการตัดสินใจหาแนวทางการจัดการกับวิกฤตที่ทวีความรุนแรงขึ้นนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.วิโดโด ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนประจำปีนี้ ได้กล่าวในวันที่ 2 ของการประชุมสุดยอดอาเซียน ณ เมืองลาบวน บาโจ โดยมีฉันทามติ 5 ข้อ หรือแผนสันติภาพของเมียนมา เป็นประเด็นสำคัญในการอภิปรายครั้งนี้
ปธน.วิโดโดระบุว่า "ผมต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าการปฎิบัติตามฉันทามติ 5 ข้อนั้น ยังไม่มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญใดๆ" พร้อมเสริมว่า "ด้วยเหตุนี้ อาเซียนจึงจำเป็นต้องแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อตัดสินใจสำหรับขั้นตอนต่อไป"
ปธน.วิโดโด เรียกร้องให้ชาติสมาชิก 10 ประเทศกำหนดแนวทางเพื่อมุ่งลดระดับความรุนแรงที่ทวีมากยิ่งขึ้นในเมียนมา นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งและการปราบปรามอย่างนองเลือดโดยกองทัพเมียนมา
ขณะเดียวกัน นักเคลื่อนไหวได้ประณามการโจมตีทางอากาศและการใช้อาวุธหนักของกองทัพเมียนมาในพื้นที่พลเรือน โดยรัฐบาลทหารระบุว่ากำลังต่อสู้กับ "ผู้ก่อการร้าย"
ทั้งนี้ รัฐบาลทหารของเมียนมาไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 42 เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามแผนสันติภาพได้ โดยเมียนมาได้ลงนามในระหว่างการประชุม ณ กรุงจาการ์ตา เมื่อเดือนเม.ย. พ.ศ. 2564