ความพยายามในการออกมาตรการกีดกันจีนจากการเข้าซื้อที่ดินในสหรัฐเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วในหลายรัฐ โดยกลุ่มผู้เสนอให้เหตุผลว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยป้องกันอิทธิพลมุ่งร้ายจากต่างชาติ แม้กลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียจะมองว่าเป็นการกระทำที่เกินเลยก็ตาม
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 8 พ.ค. นายรอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาจากพรรคริพับลิกันได้ลงนามออกกฎหมายที่ห้ามพลเมืองจีนเข้าซื้อที่ดินในรัฐฟลอริดา เว้นแต่ว่าจะถือสัญชาติอเมริกันร่วมด้วยหรือเป็นผู้ที่มีถิ่นอาศัยแบบถาวร โดยกฎหมายดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 1 มิ.ย.
นอกจากนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวยังห้ามพลเมืองจาก "ประเทศที่น่ากังวล" ซึ่งรวมถึงรัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ จากการซื้อที่ดินภายในรัศมี 10 ไมล์ของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ฐานทัพหรือโรงกลั่นน้ำมัน รวมถึงขยายให้ครอบคลุมที่ดินเพื่อการเกษตรด้วย
"เราตระหนักได้ถึงภัยคุกคามจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ดังนั้นเราจึงต้องดำเนินการเช่นนี้" นายดีซานทิสกล่าวต่อผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการลงนามในกฎหมาย พร้อมกล่าวเสริมว่า "เราไม่ต้องการให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนเข้ามาควบคุมด้านการผลิตอาหาร"
ฟลอริดาไม่ใช่รัฐเดียวในสหรัฐที่จำกัดชาวต่างชาติจากการซื้อที่ดิน โดยนายเกร็ก เจียนฟอร์เต ผู้ว่าการรัฐมอนทานาจากพรรคริพับลิกันลงนามในกฎหมายห้ามขายที่ดินเพื่อการเกษตร หรือที่ดินที่อยู่ใกล้โครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับ "ปฏิปักษ์ต่างชาติ" ในวันศุกร์ที่ 5 พ.ค.
"มอนทานาจะไม่ยอมให้ปฏิปักษ์ต่างชาติซื้อที่ดินเพาะปลูก เก็บข้อมูลส่วนบุคคล และสอดแนมชาวอเมริกัน" นายเจียนฟอร์เตกล่าว
อย่างไรก็ตาม การออกมาตรการกีดกันชาวต่างชาติในการเข้าซื้อที่ดินเหล่านี้ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับสมาชิกสภาและนักวิชาการที่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย
"นโยบายที่เล็งเป้าไปยังตัวบุคคลและชุมชน เพราะชาติกำเนิด ชนชาติ ชาติพันธุ์ หรือสถานะการอพยพถือเป็นการเลือกปฏิบัติและขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสิ้นเชิง" นางจูดี้ ชู สมาชิกสภารัฐแคลิฟอร์เนียจากพรรคเดโมเครตระบุเมื่อวันจันทร์ที่ 15 พ.ค.ในฐานะประธานการประชุมรัฐสภาว่าด้วยชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียแปซิฟิก ระบุ