สำนักข่าว NBC รายงานว่า นายรอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาจากพรรครีพับลิกัน จะประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2567 โดยจะประกาศผ่านไลฟ์สตรีมใน Twitter Spaces ร่วมกับนายอีลอน มัสก์ในช่วงเย็นวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ
ทีมงานการเมืองของนายเดอซานติสยืนยันข่าวดังกล่าว และนายเดอซานติสจะยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อประกาศการลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้
ด้านนายมัสก์ยืนยันในการประชุมที่จัดขึ้นโดยวอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า เขาจะปรากฏตัวในการไลฟ์สดดังกล่าว พร้อมกล่าวว่านี่ไม่ใช่การประกาศตัวสนับสนุนนายเดอซานติส
"ในตอนนี้ผมไม่ได้มีแผนจะสนับสนุนแคนดิเดตคนไหนเป็นพิเศษ แต่ผมสนใจที่ทวิตเตอร์ได้กลายเป็นเหมือนจัตุรัสกลางเมือง"
ทั้งนี้ นายเดอซานติสชนะการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐฟลอริดาในสมัยสองได้แบบแลนด์สไลด์ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ชื่อเสียงรุ่งพุ่งแรงในหมู่คนชอบรีพับลิกันและความสามารถของเขาในการระดมทุนนั้น มีแนวโน้มจะทำให้นายเดอซานติสเป็นคู่แข่งตัวฉกาจที่สุดของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกชิงตำแหน่งแคนดิเดตเบอร์ 1 ของพรรครีพับลิกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทั้งสองเคยเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกันมาก่อนในช่วงที่นายทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนายทรัมป์ประกาศสนับสนุนนายเดอซานติสในช่วงที่เขาจะชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐฟลอริดาสมัยแรก
อย่างไรก็ดี นายเดอซานติสเริ่มสร้างตัวตนทางการเมืองของตัวเองให้พ้นไปจากความเป็น "ทายาททางการเมือง" ของนายทรัมป์ และนักการเมืองวัย 44 ปีผู้นี้อาจเป็นตัวแทนอนาคตของพรรคได้มากกว่านายทรัมป์ในวัย 76 ปี
ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก นายเดอซานติสเป็นตัวตั้งตัวตีในการต่อต้านการบังคับสวมหน้ากากและการบังคับฉีดวัคซีน ทั้งยังคอยวิพากษ์วิจารณ์นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวอีกด้วย
ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ นายเดอซานติสออกตระเวนหาเสียงทั่วสหรัฐ โดยไปเยือนรัฐไอโอวาและนิวแฮมป์เชอร์ ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขันชิงตำแหน่งแคนดิเดตที่แรก ๆ ในช่วงปีหน้า พร้อมสาธยายถึงผลงานความสำเร็จต่าง ๆ ที่เขาได้ทำไว้ในรัฐฟลอริดา
อย่างไรก็ตาม การที่เขาเพิ่งตัดสินใจจะปรากฏตัวตอนนี้เปิดช่องให้นายทรัมป์ได้มีเวลาพูดโจมตีผ่านสื่อ เช่นการเรียกชื่อนายเดอซานติสแบบล้อเลียนว่าเป็น "DeSanctimonious" (มือถือสากปากถือศีล) พร้อมอ้างว่าตนเป็นคนปลุกปั้นจนนายเดอซานติสเป็นดาวรุ่งทางการเมืองได้อย่างทุกวันนี้
อนึ่ง โพลล่าสุดจากเว็บไซต์ fivethirtyeight.com ระบุให้นายทรัมป์มีโอกาสชนะไพรมารีโหวตของพรรครีพับลิกันมาเป็นอันดับหนึ่งถึง 53% นำห่างอันดับ 2 อย่างนายเดอซานติสที่โพลให้เพียง 20.8%