สหภาพยุโรป (EU) ตกลงเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ที่จะยังคงอนุญาตให้มีการนำเข้าสินค้าจากยูเครนต่อไปอีก 1 ปี หลังจากยกเลิกการห้ามนำเข้าที่บางประเทศใน EU เป็นผู้กำหนดท่ามกลางการประท้วงของกลุ่มเกษตรกรยุโรปเกี่ยวกับราคาผลผลิตที่ตกต่ำลง
นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนกล่าวขอบคุณ EU สำหรับการขยายเวลาดังกล่าว และให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดโดย EU เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก EU ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วย 27 ประเทศ
คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (The Council of the EU) ระบุในทวิตเตอร์ว่า รัฐมนตรีของ EU ที่รับผิดชอบด้านการค้าได้ตกลงที่จะขยายเวลาดังกล่าวในการประชุมเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.)
ก่อนหน้านี้ EU ได้ยกเลิกภาษีศุลกากรและข้อจำกัดอื่น ๆ สำหรับยูเครนในช่วง 12 เดือนแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2565
"ในกระบวนการความเคลื่อนไหวของเราใน EU นั้น เราต้องทำให้การเปิดเสรีนี้ให้เป็นการถาวร จากที่ขณะนี้เป็นเพียงชั่วคราว โดยไม่มีข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดใด ๆ" นายเซเลนสกีกล่าว
การระงับภาษีทั้งหมดนำไปสู่การร้องเรียนจากกลุ่มเกษตรกร ซึ่งโปแลนด์และฮังการีมีการประท้วงหนักที่สุดโดยได้ระงับการนำเข้าธัญพืชบางชนิดจากยูเครนในเดือนเม.ย. ซึ่งทั้งสองประเทศได้กลายเป็นเส้นทางขนส่งธัญพืชของยูเครนซึ่งไม่สามารถส่งออกผ่านทางทะเลดำได้
แม้แต่ช่วงก่อนการถูกรุกรานโดยรัสเซียนั้น ยูเครนก็ได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีศุลกากรส่วนใหญ่ของ EU อยู่แล้ว ซึ่งในบางกรณี เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่าง EU กับยูเครนที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2559
แต่จนถึงปี 2565 นั้น EU ก็ยังคงกำหนดราคาขั้นต่ำสำหรับผักและผลไม้ รวมถึงอัตราภาษีศุลกากรและโควตาสำหรับสินค้าเกษตรอื่น ๆ ที่เป็นสินค้าอ่อนไหว เช่น เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม น้ำตาล และธัญพืชบางชนิด
ทั้งนี้ 5 ประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนได้แก่ ฮังการี โปแลนด์ บัลแกเรีย โรมาเนีย และสโลวาเกีย จะห้ามขายธัญพืชบางชนิดจากยูเครนภายในประเทศ แต่ยังคงอนุญาตให้ขนส่งธัญพืชของยูเครนผ่านประเทศได้เพื่อส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ