ทางการยูเครนเปิดเผยในวันนี้ (26 พ.ค.) ว่า รัสเซียดำเนินการโจมตียูเครนตลอดทั้งคืนในหลายพื้นที่ ทั้งกรุงเคียฟ เมืองดนีโปร และภูมิภาคทางตะวันออก โดยยูเครนสามารถยิงสกัดขีปนาวุธได้ 10 ลูก และโดรนอีกมากกว่า 20 ลำ
รัสเซียยกระดับการโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรนอย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้นในเดือนนี้ โดยส่วนใหญ่เน้นการโจมตีไปที่ระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนที่ยูเครนจะโจมตีโต้ตอบตามที่คาดการณ์ล่วงหน้า
กองทัพอากาศยูเครนกล่าวว่า ได้ยิงสกัดขีปนาวุธทิ้ง 10 ลูก ซึ่งยิงมาจากทะเลแคสเปียน รวมทั้งโดรนชาเฮดที่ผลิตในอิหร่าน 23 ลำ และโดรนสอดแนมอีก 2 ลำ
การโจมตีซึ่งเริ่มต้นขึ้นในเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันที่ 25 พ.ค. ยาวไปจนถึง 05.00 น. ของวันที่ 26 พ.ค. โดยในระหว่างนั้นมีการยิงขีปนาวุธทั้งหมด 17 ลูก และส่งโดรนมา 31 ลำ ซึ่งขีปนาวุธและโดรนหลายลำโจมตีโดนเป้าหมายในแคว้นคาร์คิฟและแคว้นดนีโปรเปตรอฟส์ค แต่ยังไม่มีการรายงานผู้เสียชีวิต
"มันเป็นค่ำคืนที่หนักหนามาก เสียงดังสนั่น ศัตรูเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ด้วยขีปนาวุธและโดรน เมืองดนีโปรเสียหายหนักมาก" นายเซอร์เฮ ลีซาค ผู้ว่าการแคว้นดนีโปรเปตรอฟส์ค กล่าวผ่านบัญชีเทเลแกรม
นายลีซาคกล่าวว่า บ้านเรือนประชาชน, รถยนต์, อาคารบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทขนส่งและปั๊มน้ำมัน ต่างได้รับความเสียหาย
ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลในกรุงเคียฟกล่าวว่า หลังคาห้างสรรพสินค้า, บ้านเรือน และรถหลายคันได้รับความเสียหาย ผู้ว่าการแคว้นคาร์คิฟก็รายงานความเสียหายเช่นกัน ทั้งบ้านเรือนประชาชนและโรงงานอุตสาหกรรม