กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ถูกรัสเซียระดมโจมตีทางอากาศตลอดทั้งคืน ซึ่งทางการยูเครนกล่าวว่าน่าจะเป็นการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นสงคราม โดยการโจมตีมีขึ้นก่อนหน้าวันเฉลิมฉลองครบรอบ 1,541 ปี ของการก่อตั้งกรุงเคียฟ หรือ Kyiv Day ในวันนี้ (28 พ.ค.)
กองทัพอากาศยูเครนกล่าวว่า ได้ยิงสกัดโดรนกามิกาเซ่ที่ผลิตในอิหร่าน 52 ลำ จาก 54 ลำ ที่รัสเซียปล่อยมา แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ารัสเซียปล่อยโดรนโจมตีทั้งหมดกี่ลำ โดยรัสเซียพุ่งเป้าการโจมตีไปที่ฐานทัพ และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในภาคกลางของยูเครน โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเคียฟ
นายวิทาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 14 ในเดือนพ.ค. และเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุด โดยชายวัย 41 ปี เสียชีวิตหลังจากถูกเศษซากโดรนตกใส่
วันแห่งเคียฟ จัดขึ้นทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนพ.ค. โดยจะเฉลิมฉลองด้วยการตั้งร้านขายสินค้าริมถนน คอนเสิร์ตดนตรีสด และการจัดแสดงนิทรรศการพิเศษที่พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งในปีนี้มีกำหนดจัดขึ้นตามปกติ แต่ในขนาดเล็กกว่าทุก ๆ ปี
"ประวัติศาสตร์ของยูเครนได้สร้างความขุ่นเคืองใจให้กับรัสเซียที่รู้สึกไม่มั่นคงมาอย่างยาวนาน" นายอันเดร เยอร์มัค หัวหน้าสำนักงานบริหารของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าว
ด้านนายพลเซอร์เฮ พอปโก ผู้บัญชาการทหารประจำกรุงเคียฟ กล่าวว่า รัสเซียโจมตีหลายระลอก และเสียงประกาศเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังต่อเนื่องนานกว่า 5 ชั่วโมง
"ในวันนี้ ศัตรูพวกนั้นตัดสินใจที่จะ "เฉลิมฉลอง" ให้กับประชาชนชาวกรุงเคียฟ ในวันแห่งเคียฟ ด้วยความช่วยเหลือจากโดรนสุดอันตราย" นายพลพอปโก กล่าวผ่านบัญชีเทเลแกรม
ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ไม่นานหลังจากเที่ยงคืน ในระหว่างการประกาศเตือนการโจมตีทางอากาศ ผู้คนจำนวนมากในกรุงเคียฟออกมายืนอยู่ริมระเบียง บางคนกรีดร้องตะโกนก่นด่าคำขวัญ "การป้องกันภัยทางอากาศอันรุ่งโรจน์" ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
ทั้งนี้เศษซากโดรนที่ถูกยิงทิ้ง ได้ตกใส่โกดังสูง 3 ชั้น จนเกิดไฟไหม้กินพื้นที่โดยรอบประมาณ 1,000 ตารางเมตร และมีไฟไหม้ตึก 7 ชั้น ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนในเขตโซโลเมียนสกี ทางตะวันตกของกรุงเคียฟ ซึ่งเขตนี้เป็นจุด ศูนย์กลางการเดินทาง ทั้งทางอากาศและรถไฟ