ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองได้แสดงความเห็นว่า ข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการประชุมความมั่นคง "แชงกรีล่า ไดอะล็อก (Shangri-La Dialogue)" หรือ SLD ซึ่งจะจัดขึ้นที่สิงคโปร์ โดยหลายฝ่ายจับตาดูว่า นายหลี่ ซ่างฝู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของจีน และนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ จะพบปะกันนอกรอบการประชุมหรือไม่
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายออสติน และนายซ่างฝู จะเข้าร่วมการประชุม SLD เช่นเดียวกับรัฐมนตรีกลาโหมทั่วโลก โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับความท้าทายต่าง ๆ ที่มีผลต่อความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จีนยืนยันว่านายหลี่จะเข้าร่วมการประชุม SLD ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า จีนได้ปฏิเสธคำขอของสหรัฐที่จะจัดการประชุมนอกรอบระหว่างนายออสตินและนายหลี่
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐตกต่ำลงอีกครั้งนับตั้งแต่นางแนนซี เพโลซี อดีตสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว แม้จีนออกคำเตือนว่าขอให้สหรัฐยึดมั่นในหลักการจีนเดียว กระทั่งในช่วงต้นปีนี้ นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมตรีต่างประเทศสหรัฐได้ตัดสินใจเลื่อนการเยือนจีน หลังจากสหรัฐยิงบอลลูนสอดแนมของจีนที่ลอยเหนือชายฝั่งของรัฐเซาท์แคโรไลนา ในขณะที่จีนยืนยันว่าบอลลูนดังกล่าวไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการสอดแนม
นายดรู ธอมป์สัน อดีตเจ้าหน้าที่ด้านกลาโหมของสหรัฐซึ่งปัจจุบันเป็นทีมงานวิจัยของมหาวิทยาลัยลีกวนยูในสิงคโปร์กล่าวว่า "ผมจะไม่แปลกใจเลยหากรัฐมนตรีกลาโหมของจีนและสหรัฐไม่พบปะกันในการประชุมครั้งนี้ การพบปะกันของนายหลี่และนายออสตินจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย แต่ผมไม่คิดว่าการพบปะกันของทั้ง 2 จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพลวัตด้านความมั่นคง"
นอกเหนือจากข้อพิพาทด้านการเมืองแล้ว สหรัฐและจีนยังมีความขัดแย้งในด้านเทคโนโลยี โดยเมื่อไม่นานมานี้ หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) สั่งห้ามการจำหน่ายชิปของบริษัทไมครอน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปของสหรัฐ ขณะที่สภาชิกสภาคองเกรสสหรัฐเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐตอบโต้ด้วยการระงับการจำหน่ายชิปของบริษัทฉางซิน เมมโมรี เทคโนโลยีส์ (CXMT) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของจีน