เจ้าหน้าที่อิหร่านและตะวันตกระบุว่า สหรัฐกำลังเจรจาร่วมกับอิหร่าน เพื่อวางแผนขั้นตอนต่าง ๆ ที่จะจำกัดโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน รวมถึงปล่อยตัวพลเมืองอเมริกันบางรายที่ถูกอิหร่านควบคุมตัวเอาไว้และยกเลิกการอายัดทรัพย์สินในต่างประเทศของอิหร่านบางส่วน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐและอิหร่านจะดำเนินขั้นตอนเหล่านี้ในฐานะ "ความเข้าใจ" ไม่ใช่ข้อตกลง เนื่องจากข้อตกลงนั้นต้องได้รับการพิจารณาจากสภาคองเกรสหรัฐเสียก่อน ซึ่งสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐจำนวนมากคัดค้านการหยิบยื่นผลประโยชน์ให้กับอิหร่าน เพราะอิหร่านให้การช่วยเหลือทางทหารแก่รัสเซีย รวมถึงออกมาตรการปราบปรามในประเทศ และสนับสนุนกลุ่มตัวแทนที่โจมตีผลประโยชน์สหรัฐในภูมิภาค
หลังจากประสบความล้มเหลวในการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 สหรัฐก็คาดหวังที่จะให้อิหร่านกลับมาปฏิบัติตามข้อจำกัดบางข้อในข้อตกลงนิวเคลียร์ เพื่อยับยั้งอิหร่านจากการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งสามารถคุกคามอิสราเอลและจุดชนวนการแข่งขันด้านอาวุธในภูมิภาค โดยอิหร่านระบุว่า อิหร่านไม่มีความตั้งใจที่จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใด
อนึ่ง ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ได้จำกัดอิหร่านจากการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์เกิน 3.67% และกักตุนวัตถุดิบดังกล่าวได้สูงสุด 202.8 กิโลกรัม (447 ปอนด์) แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐได้ยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวในปี 2561 ทำให้อิหร่านเลิกปฏิบัติตามข้อตกลง ด้วยการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์เกิน 3.67% และกักตุนวัตถุดิบเกินขีดจำกัด