สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกแบนบริษัทโทรคมนาคมของจีน เช่น หัวเว่ย และ แซดทีอี จากเครือข่าย 5G ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดกับจีน
นายเธียร์รี เบรตัน หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่า เขาต้องการให้ประเทศสมาชิก EU ถอดซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หัวเว่ย และแซดทีอี ออกจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ โดยอ้างถึงความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ
รายงานระบุว่า เมื่อเดือนม.ค. 2563 EU ได้นำ "เครื่องมือความปลอดภัยทางไซเบอร์ 5G" มาใช้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุความเสี่ยงในการยอมรับผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน 5G บางราย ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่หลายประเทศรวมถึงอังกฤษกำลังจะตัดสินใจแบนหัวเว่ย เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย
นายเบรตันระบุว่า "เราจะเดินหน้าทำงานต่อไปด้วยความมุ่งมั่นร่วมกับประเทศสมาชิกที่ยังตามหลังในประเด็นนี้ และผู้ให้บริการโทรคมนาคม ขณะนี้ผมทำได้เพียงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งการตัดสินใจเพื่อแบนซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยงสูงจากเครือข่าย 5G ของพวกเขา ผมได้เตือนผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้องว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการกับปัญหานี้"
นายเบรตันเสริมว่า จนถึงปัจจุบัน มีเพียง 10 ประเทศใน EU เท่านั้นที่จำกัดหรือแบนหัวเว่ยจากเครือข่าย 5G ของตน
"ในส่วนของเรา EC จะนำหลักการของเครื่องมือ 5G มาใช้กับการจัดหาบริการโทรคมนาคมของบริษัทเอง เพื่อหลีกเลี่ยงหัวเว่ยและแซดทีอี" นายเบรตันกล่าว
ทั้งนี้ จีนได้ออกมาคัดค้านการแบนหัวเว่ยของบางประเทศใน EU โดยอ้างว่า ดำเนินการดังกล่าวของคณะกรรมาธิการยุโรปไม่ชอบด้วยกฎหมาย