ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงกล่าวว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการปลดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับอาวุธนิวเคลียร์ออกจากการเป็นข้อมูลลับ ซึ่งความเห็นนี้ขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของนายทรัมป์ที่ว่าเขามีอำนาจที่จะทำเช่นนั้นได้ในขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เอกสารที่เป็นปัญหาคือเอกสารหมายเลข 19 ในคำฟ้องคดีอาญาอุกฉกรรจ์ที่กล่าวหานายทรัมป์ว่าเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ โดยเอกสารดังกล่าวจะสามารถถูกปลดออกจากการเป็นเอกสารลับได้ก็ต่อเมื่อผ่านกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงานและกระทรวงกลาโหมตามที่กำหนดโดยรัฐบัญญัติพลังงานปรมาณู (AEA) ปี 2497 ซึ่งต่างจากเอกสารอื่น ๆ ที่กล่าวถึงในคำฟ้องที่สามารถถูกปลดออกจากการเป็นเอกสารลับได้โดยคำสั่งของฝ่ายบริหาร
นายสตีเวน อาฟเตอร์กูด ผู้เชี่ยวชาญด้านความลับของรัฐบาลจากสมาพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน กล่าวว่า "คำกล่าวอ้างที่ว่าทรัมป์สามารถปลดข้อมูลออกจากการเป็นเอกสารลับได้นั้นใช้ไม่ได้ในกรณีของข้อมูลอาวุธนิวเคลียร์ เพราะมันไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นความลับตามคำสั่งของฝ่ายบริหาร แต่ถูกกำหนดโดยกฎหมาย"
เอกสารหมายเลข 19 จัดเป็น "FRD" (ข้อมูลที่เคยถูกจำกัด) ซึ่งบ่งชี้ว่ามีข้อมูลลับเกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางทหาร โดยในคำฟ้องระบุเว่าเอกสารฉบับนี้ไม่มีการลงวันที่และเกี่ยวข้องกับอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐ
นายอาฟเตอร์กูดและผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ กล่าวว่า AEA ได้ระบุถึงกระบวนการเฉพาะในการกำหนดชั้นความลับของข้อมูลอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในความลับที่รัฐบาลสหรัฐป้องกันรักษาไว้อย่างใกล้ชิดที่สุด
ด้านอดีตเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐรายหนึ่งกล่าวว่า "ตัวบทกฎหมายนั้นชัดเจนมาก ไม่มีตรงไหนที่ระบุว่าประธานาธิบดีมีอำนาจตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวได้"
นอกจากนี้ นายอาฟเตอร์กูดยังกล่าวว่า เอกสาร FRD จะต้องจัดเก็บไว้ในพื้นที่ปลอดภัยอย่างเหมาะสม "การเก็บมันไว้ในห้องน้ำไม่เข้าเกณฑ์ข้อนี้"