นางฮว่า ชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า ปธน.สีกล่าวกับนายบลิงเกนด้วยว่า การมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างรัฐควรตั้งอยู่บนรากฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน โดยนางฮว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้เข้าร่วมการประชุมระหว่างปธน.สีและนายบลิงเกน ขณะที่ เจ้าหน้าที่อาวุโสคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ได้รวมถึงนายนิโคลัส เบิร์นส เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีนและนายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน
การพบปะกันระหว่างนายบลิงเกนและปธน.สีเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า การพูดคุยหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นไปอย่างราบรื่นและเพิ่มความคาดหวังถึงการพูดคุยแลกเปลี่ยนร่วมกันระหว่างปธน.สีและประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐภายหลังในปีนี้
นอกจากนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า นายฉินได้ตอบรับคำเชิญไปเยือนกรุงวอชิงตัน หลังจากการหารือกันนานกว่า 7 ชั่วโมงครึ่งที่ทั้งสองฝ่ายระบุว่า "มีประสิทธิภาพ" และ "เปิดเผยตรงไปตรงมา"
ถ้อยแถลงของกระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐจีน กล่าวกับนายบลิงเกนระหว่างการพบปะกัน 3 ชั่วโมงในวันนี้ว่า การมาเยือนของนายบลิงเกนเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันเป็นทางแยกที่สำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน
นายหวังระบุว่า "การตัดสินใจเลือกระหว่างการสนทนาและการเผชิญหน้า ความร่วมมือและความขัดแย้งเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง" ขณะที่นายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า การหารือระหว่างนายหวังและนายบลิงกันนั้น "มีประสิทธิภาพ"
ก่อนหน้านี้ นายบลิงเกนมีกำหนดเดินทางเยือนจีนในเดือนก.พ. แต่แผนการถูกระงับไป ด้วยประเด็นเรื่องบอลลูนสอดแนมของจีนที่ล่วงล้ำเข้ามายังน่านฟ้าของสหรัฐ จนทำให้กองทัพสหรัฐตัดสินใจยิงบอลลูนทิ้ง ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐตึงเครียดเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดสหรัฐและจีนต่างเป็นสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
อนึ่งการเยือนจีนของนายบลิงเกน เป็นการปูทางถึงความเป็นไปได้ที่นายไบเดนจะได้พบปะกับปธน.สี หลังจากที่ผู้นำทั้งสองพบปะกันครั้งแรกที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนพ.ย. 2565 เพียงหนึ่งวันก่อนการประชุม G20