ทำเนียบเครมลินของรัสเซียเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐกล่าวพาดพิงถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนว่าเป็น "เผด็จการ" เพียงไม่นานหลังจากการประชุมระดับสูงระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีน แสดงให้เห็นถึงความย้อนแย้งของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ
รายงานระบุว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวของปธน.ไบเดนในงานระดมทุนของพรรคเดโมแครตเมื่อวันอังคาร (20 มิ.ย.) มีขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเสร็จสิ้นภารกิจเยือนจีนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก
สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีรายงานว่า นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยอ้างถึงคำพูดของปธน.ไบเดนว่า "แน่นอนว่า สิ่งนี้แสดงออกถึงความย้อนแย้งของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ และสะท้อนถึงการคาดเดาไม่ได้ในระดับสูง"
นายเพสคอฟระบุเสริมว่า "การดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง กลายเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในหลาย ๆ ประเทศ และมีหลายประเทศมากขึ้นแสดงความไม่พอใจ"
"อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องของพวกเขา เรามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับสหรัฐ แต่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน" นายเพสคอฟระบุ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การเดินทางเยือนจีนของนายบลิงเกนมีขึ้นในวันจันทร์ (19 มิ.ย.) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างจีนและรัสเซียทำให้ชาติตะวันตกกังวล
ทั้งนี้ คำพูดของปธน.ไบเดนที่พาดพิงปธน.สีว่า "เผด็จการ" นั้นยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศร้าวฉาน และเมื่อวันพุธ (21 มิ.ย.) จีนได้ตอบโต้โดยกล่าวว่าถ้อยคำนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ